ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.78/80 แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง มองกรอบวันนี้ 35.70-35.85

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 16, 2016 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.78/80 บาท/ดอลลาร์ ใกล้ เคียงจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.77/78 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทมีโอกาสจะอ่อนค่าได้ต่อ และระหว่างวันอาจมีแรง take profit ทั้งนี้สำหรับผลประชุมธนาคาร กลางอังกฤษ (BoE) ที่ออกมาล่าสุดยังคงเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์คือ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิมที่ 0.25%

"แนวโน้มวันนี้ บาทยังไปในทิศทางอ่อนค่า อาจมีแรง take profit ออกมาบ้างระหว่างวัน" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.70-35.85 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.15 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 117.95/96 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0420 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0495/0496 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.7150 บาท/
ดอลลาร์
  • นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยผลโดยตรงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ทำให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ตรงข้ามกับเงินเหรียญสหรัฐที่แข็งค่า ซึ่งมองว่าส่งผลดีต่อ
ประเทศไทย เพราะเงินบาทอ่อนค่าดีกับผู้ส่งออกที่ค้าขายได้เงินบาทมากขึ้น แต่ด้านตลาดเงินอาจผันผวนจากเงินทุนต่างชาติที่จะไหล
ออกไปยังตลาดสหรัฐ
  • นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำในประเทศปรับลดลง 200 บาท หลังจาก
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 0.50-0.75 ตามที่ตลาดคาด แต่เชื่อว่าราคาทองคำจะปรับ
ลดลงได้ไม่มาก เนื่องจากราคาทองปรับลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว และการที่เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 35.70 บาท ทำให้ราคา
ทองคำในประเทศไม่ปรับลดลงมากนัก ระยะสั้นอาจลดลงได้อีก 10-20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการปรับขึ้น
ดอกเบี้ยของเฟดปี 2560 ว่าจะเป็นไปตามคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งหรือไม่ และต้องติดตามดูนโยบายของนายโด
นัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 มกราคม 2560 แต่มองว่าปัจจัยนี้จะส่งผลต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกเพิ่มขึ้นและค่า
เงินบาท มีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีก
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 รายใน
สัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 254,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 255,000 ราย
  • สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 7 จุด แตะระดับ 70
จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 11 ปี โดยผู้สร้างบ้านมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เนื่องจากคาดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่
ประธานาธิบดีสหรัฐ จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดกฎระเบียบในภาคอุตสาหกรรมตามที่เขาได้สัญญาไว้
  • ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการ
ผลิตของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 54.2 ในเดือนธ.ค. สูงกว่าระดับ 54.1 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาค
การผลิตยังคงมีการขยายตัว
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงในไตรมาส 3 สู่ระดับ 1.130 แสนล้าน
ดอลลาร์ แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.116 แสนล้านดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1.183
แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ขณะที่ไตรมาส 1 ขาดดุล 1.318 แสนล้านดอลลาร์
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากดีดตัวขึ้น
0.4% ในเดือนต.ค. และหากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานขยับขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบราย
เดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. โดยเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานทรงตัวที่ระดับ 2.1% ในเดือนพ.ย.
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) โดย
ได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่แข็งแกร่ง โดย
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 118.13 เยน จากระดับ 116.20 เยน ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
สหรัฐ ที่ระดับ 1.0415 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0578 ดอลลาร์
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับ
ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยังส่งผลให้
นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็น

ประวัติการณ์ นอกจากนี้ BoE ยังได้ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่

ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ