น.ส.รังษิต ภู่ศิริภิญโญ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า ผลการดำเนินโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวไปปลูกพืชที่หลากหลายฤดูนาปรัง ปี 2560 ด้วยการแนะนำให้ชาวนาปลูกพืชทางเลือกอื่นๆ ที่ใช้น้ำน้อย เช่น ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดฝักอ่อน ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง และพืชผักต่างๆ ทดแทนการทำนาปรังในช่วงเดือน พ.ย.59 ถึงเดือน เม.ย.60 โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 5 ไร่ ซึ่งมีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 38,700 ราย คิดเป็นพื้นที่กว่า 185,900 ไร่ กระจายอยู่ในพื้นที่ 20 จังหวัด เขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งจังหวัดที่มีเกษตรกรเข้าร่วมจำนวนมาก ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท เป็นต้น
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ของ สศก.เพื่อสำรวจข้อมูลเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ตัวอย่าง 13 จังหวัด พบว่า เกษตรกรสามารถทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตมาจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้แล้ว โดยเฉพาะที่มีการเริ่มปลูกตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค.59 ในเบื้องต้นมีความพอใจกับรายได้ที่ได้รับ และเห็นว่าปัญหาภัยแล้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดความตระหนักและสนใจที่จะหันมาปลูกพืชอื่นที่ใช้น้ำน้อยทดแทนการทำนา เพราะนอกจากช่วยให้มีรายได้เสริมแล้ว ยังช่วยปรับปรุงบำรุงดินให้ดีขึ้นด้วยจากการปลูกพืชหมุนเวียน ซึ่งในส่วนของค่าใช้จ่ายที่โครงการจะสนับสนุนนั้น เกษตรกรจะนำมาเป็นเงินลงทุนเพื่อการทำการเกษตรในฤดูฝนที่จะถึงนี้เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะบูรณาการร่วมกันในการส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกอย่างมีประสิทธิภาพแบบต่อเนื่อง ทั้งด้านเตรียมการให้ความรู้ และข้อมูลด้านการผลิตและการตลาดก่อนการตัดสินใจปรับเปลี่ยนมาสู่รูปแบบการผลิตใหม่เพื่อลดปริมาณข้าวในช่วงแล้ง และสร้างรายได้ทางเลือกอื่นให้แก่เกษตรกรได้อย่างยั่งยืนต่อไป