พาณิชย์ ขอความร่วมมือผู้ผลิต-ห้างสรรพสินค้าต้องแจ้งก่อนลดไซส์ขายราคาเดิม

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 9, 2017 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตหากมีการปรับลดปริมาณสินค้า และขนาดบรรจุภัณฑ์ ต้องแจ้งให้กรมการค้าภายในทราบก่อนนำสินค้าไปวางขาย และขอให้ห้างตรวจสอบรายละเอียดสินค้าที่จะนำไปวางขายว่ามีการปรับลดปริมาณหรือไม่ และผู้ผลิตได้แจ้งการเปลี่ยนดังกล่าวต่อกรมการค้าภายในแล้วหรือไม่ เพื่อดูแลราคาสินค้าให้รัดกุม และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค

สำหรับสินค้าที่ปรับลดปริมาณและขนาดบรรจุภัณฑ์ 2 รายการที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตได้แจ้งว่า ขณะนี้ต้นทุนสารเคมีที่ใช้ในการผลิตมีราคาสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงต้องหาทางลดต้นทุน ซึ่งยังคงขายราคาเดิม ถือว่าไม่มีความผิด เพราะยังเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาขายที่ผู้ผลิตแจ้งไว้กับกรมการค้าภายใน

ทั้งนี้ ต้นทุนครีมอาบน้ำขนาดบรรจุเดิม 500 มิลลิลิตร (มล.) ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำตามต้นทุนข้อมูลตั้งแต่ปี 57 อยู่ที่ขวดละ 184 บาท แต่ผู้ผลิตขายที่ 165 บาท และขนาดใหม่ 450 มล.เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย.60 ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำขวดละ 165 บาท ราคาจำหน่ายในห้างค้าปลีก 165 บาท ซึ่งเป็นราคาเดิมและไม่สูงกว่าราคาจำหน่ายปลีกแนะนำ ส่วนน้ำยาซักฟอก เดิม 800 มล. ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำ ปี 57 อยู่ที่ 85 บาท จำหน่ายในห้าง 79 บาท และขนาดใหม่ 750 มล. ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำ 80 บาท ราคาในห้าง 79 บาท ซึ่งไม่สูงกว่าราคาแนะนำ

"มาตรการที่ขอให้ผู้ผลิตแจ้งก่อนลดปริมาณลดขนาดบรรจุต่อกรมการค้าภายในเป็นการขอความร่วมมือ ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายยินดีที่จะปฏิบัติ ขณะที่ห้างก็พร้อมจะช่วยตรวจสอบ ถือเป็นมาตรการที่เพิ่มเติมจากมาตรการปกติที่กระทรวงใช้กำกับดูแลราคาสินค้า และแม้จะเป็นการขอความร่วมมือ แต่ผู้ผลิตต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จากเดิมที่หากไม่แจ้งก็ไม่เป็นไร" นายสนธิรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ ได้ขอให้ผู้ผลิตและห้างช่วยหาทางออกในกรณีที่เกิดขึ้นว่าจะช่วยเหลือหรือลดภาระให้กับผู้บริโภคได้อย่างไร โดยแนวทางที่กระทรวงฯ ได้เสนอ เช่น ขอให้ปรับลดราคาลงตามปริมาณและขนาดบรรจุที่ลดลงจะได้หรือไม่ ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าประชุมได้แจ้งว่าต้นทุน และราคาจำหน่ายของแต่ละรายไม่เหมือนกัน แต่ได้รับที่จะนำไปปรึกษาหารือกับฝ่ายบริหาร ก่อนที่จะนำกลับมาหารือกับกระทรวงพาณิชย์อีกครั้งในวันที่ 16 พ.ค.60

ในวันนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมร่วมกับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ 8 ราย ได้แก่ บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด, บมจ. สหพัฒนพิบูล (SPC), บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC), บริษัท ไอ.พี.เทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด ส่วนห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ 4 ราย ได้แก่ บมจ. สยามแม็คโคร (MAKRO), บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด, บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) และบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ