ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.75 แข็งค่าจากมี Flow ทั้งสองด้าน มองกรอบพรุ่งนี้ 34.70-34.80

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 11, 2017 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นวันนี้ที่ระดับ 34.75 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.80 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.71-34.81 บาท/ ดอลลาร์

"ระหว่างวันมี Flow ทั้ง 2 ด้าน เงินบาทเลยมีทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับวันพรุ่งนี้มองว่า แนวต้าน 34.80 บาท/ดอลลาร์ยังเป็นแนวต้านสำคัญ หลังจากวันนี้ยังยืนไม่ได้ ประเมินกรอบ การเคลื่อนไหวไว้ระหว่าง 34.70-34.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.12 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 114.17 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0870 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0871 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,550.27 จุด ลดลง 10.04 จุด, -0.64% มูลค่าการซื้อขาย 54,342.21 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,430.22 ลบ.(SET+MAI)
  • นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ภาวะการเงินโลกยังมีความผันผวนสูง
ซึ่งตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันจะพบว่านักลงทุนมีทั้งกล้าเสี่ยงและกลัวเสี่ยงเป็นช่วงๆ แต่ช่วงนี้จะเห็นว่ามีเงินทุนไหลออกจาก
ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มากขึ้น เนื่องจากแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มมีความ
ชัดเจน ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลายตัวเริ่มออกมาดี

ทั้งนี้ ภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายมีปัจจัยหลักภายนอกประเทศเป็นหลัก และมักเป็นปัจจัยที่คาดเดาได้ยาก ดังนั้นไม่อยาก ให้ผู้ประกอบการวางใจ ซึ่งการบริหารความเสี่ยงถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจระหว่างประเทศ

  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนา
เอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ครั้งที่ 50 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการประชุมรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 (AFMGM+3) ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2560 ณ นครโยโก
ฮามา ประเทศญี่ปุ่น
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิตของระบบสถาบันการเงินในปี
2560 จะยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ทำได้ใกล้เคียงเลข 2 หลัก ท่ามกลางหลายปัจจัยทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทาน ไม่ว่าจะเป็น 1)
การใช้นโยบายคัดกรองลูกค้าอย่างเข้มงวดของสถาบันการเงิน จากภาระหนี้ครัวเรือนที่ทรงตัวในระดับสูง ซึ่งทำให้การขยายฐาน
ลูกค้าใหม่เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป 2) ลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต มีแนวโน้มระมัดระวังการใช้จ่ายในจังหวะที่
เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว สังเกตได้จากปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งระบบสถาบันการเงินช่วงไตรมาสแรกของปี
2560 ขยายตัวชะลอลงมาที่ 4.4% YoY เทียบกับทั้งปี 2559 ที่ขยายตัว 7.1% เช่นเดียวกับยอดเบิกใช้เงินสดผ่านบัตรเครดิตที่หดตัว
ลง 2.9% YoY
  • นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึง
แนวโน้มราคาทองคำในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200-1,295 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็น
19,750-21,300 บาทต่อบาททองคำ โดยแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาใกล้บริเวณแนวรับ 1,200 ดอลลาร์ต่อ
ออนซ์หรือ 19,750 บาทต่อบาททองคำ และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นแต่ไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,295 ดอลลาร์
ต่อออนซ์หรือ 21,300 บาทต่อบาททองคำได้ และเน้นย้ำว่านักลงทุนควรเน้นทำกำไรระยะสั้นและมีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุด
ตัดขาดทุนที่ชัดเจนและปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด (ราคาไทยคำนวณจากค่าเงินบาท ณ ระดับ 34.80 บาท/ดอลลาร์)
  • กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐประจำเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ
1.824 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.64 หมื่นล้านดอลลาร์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดเกินดุลงบประมาณเดือนเม.ย.
ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2544 หรือสูงสุดในรอบ 16 ปี
  • สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NIESR) คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(GDP) ของอังกฤษขยายตัวเพียง 1.7%ในปีนี้ และ 1.9% ในปีหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ