ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.98 ตลาดรอประชุมกนง.-ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 30, 2017 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 33.98 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.99 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 33.97-34.00 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้เงินบาทแทบไม่ไปไหนเลย คิดว่าอาจจะมี Flow ทั้งสองด้าน อีกทั้งผู้นำเข้าและผู้ส่งออกทำธุรกรรมกันไปแล้ว ขณะที่ปัจจัยใหม่คือการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 5 ก.ค.และ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของ สหรัฐฯ วันศุกร์หน้า (7 ก.ค.)"นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.90-34.05 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 33.9758 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.94 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 111.98 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1409 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1436 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,574.74 จุด ลดลง 3.38 จุด, -0.21% มูลค่าการซื้อขาย 45,123.84 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 160.04 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย คาดว่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (3-7 ก.ค.) จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.85-34.15
บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนพ.ค.60 ขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกขยาย
ตัวดีในหลายหมวดสินค้าเช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตดี สอดคล้องกับอุปสงค์ต่างประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้การผลิตภาค
อุตสาหกรรมปรับดีขึ้น ด้านการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากหมวดบริการเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายภาครัฐชะลอลงต่อเนื่องตามรายจ่ายลงทุน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังทรงตัวในระดับต่ำ

ขณะที่ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 60 มีแนวโน้มจะเติบโตได้ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากภาวะ เศรษฐกิจในประเทศจะมีความเข้มแข็งมากขึ้นจากการลงทุนของภาคเอกชนที่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปี ซึ่งเป็นการลงทุนตามการลง ทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ

  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ยังคงคาดการณ์การส่งออกของไทยในปีนี้จะเติบ
โตได้ 3.5% หลังการส่งออกพ.ค.60 มีมูลค่า 19,944 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 13.21% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี
ก่อน (YoY)
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ระบุว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน พ.ค. 60 อยู่ที่
115.02 ขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 15.06% (MoM) ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
5 เดือนแรกของปี 60 ขยายตัว 0.15%
  • สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อใน
ยูโรโซน ร่วงลงสู่ระดับ 1.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในปีนี้ โดยลดลงจากระดับ 1.4% ในเดือนพ.ค.
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขั้นสุดท้ายไตรมาส
1/2560 ขยายตัว 0.2% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 เมื่อเดือนพ.ค.
  • นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ เปิดเผยว่า เฟดควรมีความรอบคอบใน
การดำเนินนโยบายการเงิน โดยจำเป็นต้องรอข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง หากเฟดต้องการปรับ
นโยบายการเงินให้มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางของชาติอื่นๆส่วนใหญ่แล้วหันไปอาศัยนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะพบปะกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในสัปดาห์หน้า ใน
การประชุมสุดยอด G20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ