(เพิ่มเติม) EXIM BANK จับมือ บสย.-เซ็นทรัลแล็บไทย สนับสนุนเงินทุนให้ SME ปรับปรุงมาตรฐานสินค้าส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 10, 2017 14:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และนายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด (CLT) หรือเซ็นทรัลแล็บไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ส่งเสริมศักยภาพและรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของ SMEs เพื่อการส่งออก เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการสนับสนุนด้านเงินทุนควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานสินค้าแบรนด์ไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหาร และเครื่องสำอาง ให้มีโอกาสขยายตลาดในต่างประเทศได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ภายใต้โครงการความร่วมมือดังกล่าว ผู้ส่งออก SMEs ที่ใช้บริการสินเชื่อส่งออกทันใจทวีค่า (EXIM Instant Credit Super Value) ซึ่งเป็นสินเชื่อหมุนเวียน วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ใช้เพียง บสย.ค้ำประกัน จะได้ลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในปีแรกเหลือ 4.5% ต่อปี และได้รับคูปองยกระดับมาตรฐานสินค้าและผลิตภัณฑ์มูลค่า 5,000 บาทต่อรายฟรี เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงโอกาสการยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าส่งออกด้วยเครื่องมือแล็บประชารัฐที่ได้มาตรฐานสากลและผ่านการทดสอบความชำนาญด้านห้องแล็บจากแล็บกลางสหภาพยุโรป (European Union Reference Laboratory : EURL) ทำให้สินค้าส่งออกของ SMEs ไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศ อาทิ สินค้าประเภทผักและผลไม้ อาหารดิบ อาหารแปรรูป เครื่องสำอาง น้ำบริโภค เครื่องดื่มในภาชนะปิดสนิท อาหารกึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่มชา กาแฟ ซึ่งมักตรวจพบว่ามีสิ่งสกปรกเจือปน สารตกค้างปนเปื้อน หรือบรรจุในหีบห่อไม่ถูกสุขอนามัย

"เราตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อส่งออกทันใจทวีค่าไว้ที่ 100 ราย ภายในกลางปี 2560 ซึ่งหากผู้ประกอบการมีความสนใจเข้ามาในระดับสูง ธนาคารก็พร้อมที่จะขยายเพิ่มเติม" นายพิศิษฐ์ กล่าว

นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า การสนับสนุนด้านเงินทุนและการพัฒนาคุณภาพสินค้าส่งออกของทั้ง 3 หน่วยงานในครั้งนี้ จะช่วยให้ SMEs ไทยมีทางออกของปัญหาที่ต้องเผชิญ ได้แก่ การขาดสภาพคล่องทางการเงิน เงื่อนไขเงินกู้ที่เข้มงวดของสถาบันการเงิน ความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ อาทิ อัตราแลกเปลี่ยนทางการเงินระหว่างประเทศ และการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ และการถูกปฏิเสธการนำเข้าเพราะสินค้าไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย นำไปสู่เป้าหมายในการผลักดันการเติบโตของภาคการส่งออก ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่นิยมและยอมรับในตลาดโลก

"ในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ ผู้ส่งออก SMEs ของไทยต้องมีเครื่องมือทั้งเชิงรุกได้แก่ การศึกษาตลาด การพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล การรุกตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ และความพร้อมด้านเงินทุน ส่วนเชิงรับได้แก่ ความพร้อมรับมือความเสี่ยงทางการค้าการลงทุนและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่ง EXIM BANK และหน่วยงานพันธมิตร เช่น บสย. และเซ็นทรัลแล็บไทย พร้อมร่วมมือกันติดอาวุธให้ผู้ส่งออก SMEs ของไทยแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก โดยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (S-curve) ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายธุรกิจการค้าและเชื่อมโยงสู่การขยายฐานการผลิตไปต่างประเทศได้ เพื่อการเข้าถึงตลาดผู้บริโภคในต่างประเทศได้อย่างประสบความสำเร็จในระยะยาว"นายพิศิษฐ์กล่าว

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวด้วยว่า ธนาคารได้สรุปแผนการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยอยู่ระหว่างส่งแผนเพื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณา โดยจะมีทั้งการให้ความรู้ด้านการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และการช่วยเหลือต้นทุนจากการทำป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ