น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนาแปลงใหญ่ประชารัฐ แปลงนา GAP และนาอินทรีย์ ในจ.สุรินทร์ ว่า ในปี 2560 มีการดำเนินนาแปลงใหญ่ในภาพรวมจำนวน 1,175 แปลง พื้นที่รวมทั้งสิ้น 1.7 ล้านไร่ เกษตรกร 130,543 ราย 75,450 ราย โดย จ.สุรินทร์ มีการดำเนินโครงการส่งเสริมนาแปลงใหญ่จำนวน 144 แปลง รวมพื้นที่ 230,887 ไร่ เกษตรกร 16,526 ราย
สำหรับการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานนาแปลงใหญ่ประชารัฐที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นผลมาจากการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนสู่การพัฒนาขยายผลการเกษตรแบบแปลงใหญ่ประชารัฐ ส่งเสริมการเกษตรสมัยใหม่เพื่อการพัฒนาระบบการผลิตและสร้างความมั่นใจด้านการตลาดให้แก่กลุ่มสมาชิก โดยสมาชิกนาแปลงใหญ่ได้รับการส่งเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวและลดต้นทุนการผลิตโดยผลิตปัจจัยการผลิตใช้เอง เพิ่มผลผลิตจากการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเฉพาะพื้นที่ เพิ่มสมรรถนะในการบริหารจัดการการผลิตแบบครบวงจร และการจัดการด้านการตลาด เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาสูงกว่าราคาตลาดตามคุณภาพ
ทั้งนี้ นาแปลงใหญ่และการยกระดับการปลูกข้าวไปสู่ข้าวคุณภาพตามมาตรฐาน GAP และข้าวอินทรีย์เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ ที่มุ่งส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง ร่วมกันบริหารจัดการเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มอำนาจต่อรองทางการตลาด ใช้ตลาดนำการผลิต โดยกระทรวงเกษตรฯ จะสนับสนุนด้านองค์ความรู้ในการลดต้นทุน/เพิ่มผลผลิต เมล็ดพันธุ์คุณภาพดี ส่งเสริมให้ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลมาช่วยในการผลิต โดยจัดทำแปลงสาธิตเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้เกษตรกรมาร่วมปรับเปลี่ยนสู่การทำนาในรูปแบบใหม่ และบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนให้การดำเนินงานในพื้นที่เกิดผลเป็นรูปธรรม เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและเกิดความมั่นคงในอาชีพได้อย่างยั่งยืน
"การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ยังได้หารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ โดยมุ่งเน้นเชื่อมโยงตลาดข้าวคุณภาพในจังหวัดสุรินทร์ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพดี ต้องการร้อยห่วงโซ่การค้าข้าวคุณธรรม ให้เกิดการจับคู่ผู้ประกอบการกับกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์และข้าว GAP อย่างแท้จริง จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าวนาแปลงใหญ่ GAP เพื่อส่งเสริมการผลิตข้าวที่มีคุณภาพปลอดภัยและช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น” น.ส.ชุติมา กล่าว