ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.18 แนวโน้มยังแข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.15-33.25

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 28, 2017 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.18 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.24 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าจากช่วงเช้า แต่ระหว่างวันโดยรวมยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ และเป็นการแข็งค่าในทิศ ทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าในวันนี้ น่าจะเป็นความต่อเนื่องจากกรณีที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า หลังจากที่ตลาดผิดคาดกับถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ไม่ได้มีการส่ง สัญญาณถึงทิศทางนโยบายทางการเงินในอนาคต ในระหว่างการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ อย่างใด

"วันนี้ปัจจัยที่บาทแข็งค่าต่อ คงเป็นความต่อเนื่องจากกรณีที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า จากที่ถ้อยแถลงของประธานเฟด ไม่ได้ มีการพูดถึงนโยบายการเงินใดๆ ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่า มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.15 - 33.25 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.12 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.15 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1923 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1926 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,585.79 จุด เพิ่มขึ้น 9.94 จุด (+0.63%) มูลค่าการซื้อขาย 39,262 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,903.74 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.10-
33.35 ต่อดอลลาร์ โดยตลาดการเงินโลกจับตาข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมของสหรัฐฯ รวมถึงความคืบหน้าเกี่ยว
กับแผนการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลทรัมป์
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายและติดตามงานกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ ฝากให้
กระทรวงพาณิชย์วางแผนการส่งออกในช่วงเวลาแต่ละเดือนที่เหลือว่าควรจะโตได้เท่าไร นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้กระทรวงฯ เดิน
หน้าหาตลาดใหม่ๆ
  • นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกของไทยปีนี้ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้ถึง 7% เนื่องจากมอง
ว่าสถานการณ์การส่งออกในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของไทย (ม.ค.-ก.ค.60) มีการเติบโตได้ดีทั้งในแง่ของรายสินค้า และราย
ตลาด ขณะเดียวกันแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลืออีก 5 เดือนของปีนี้ (ส.ค.-ธ.ค.60) ก็ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง ดังนั้นมูลค่าการ
ส่งออกในแต่ละเดือนที่เหลือหากทำได้ในระดับ 19,000 ล้านดอลลาร์ ก็มีโอกาสที่ทั้งปีนี้การส่งออกจะเติบโตได้ถึงระดับ 7%
  • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เดินหน้ายุทธศาสตร์การเป็นธนาคารแห่งเออีซีบวกสาม ในการขยายเครือข่ายและ
พันธมิตรให้บริการรองรับการค้าการลงทุนของลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศในอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยล่าสุดได้เข้าไป
ถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยน (Bank Maspion) ประเทศอินโดนีเซียในสัดส่วน 9.99% โดย KBANK และธนาคารแมสเปี้ยนจะร่วมมือ
พัฒนาบริการด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ บริการเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และบริการดิจิทัล แบงกิ้ง เพื่อส่งเสริมศักยภาพการให้
บริการระหว่างกันให้ดียิ่งขึ้น โดยมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้ KBANK สามารถให้บริการของแก่ลูกค้าธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียและ
ลูกค้าอินโดนีเซียที่เข้ามาทำธุรกิจในไทยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ระบายเม็ดเงินออกจากตลาดในวันนี้ผ่านการดำเนินการทางตลาดเงิน (Open
Market Operations: OMO) จากการที่จำนวนพันธบัตรครบกำหนดมีมูลค่ามากกว่าที่อัดฉีดใหม่ โดยเป็นการระบายเงินวันที่ 6
ติดต่อกัน โดยธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 1 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านทางข้อตกลงซื้อคืน
พันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo)
  • นายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit ของอังกฤษ เตรียมเข้าร่วมการประชุมเรื่องการถอนตัวจากการเป็น
สมาชิกสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ กับนายไมเคิล บาร์เนียร์ กรรมาธิการของสหภาพยุโรปในวันนี้ โดยประเด็นที่เจ้าหน้าที่ระดับ
คณะทำงานคาดว่าจะมีการหารือในการประชุม ได้แก่ รายละเอียดของข้อเสนอของทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะหารือเกี่ยวกับเป้าหมายของ
อังกฤษในการได้มาซึ่งข้อตกลงที่เป็นประโยชน์สำหรับทั้ง 2 ฝ่าย คือ ทั้งประชาชน และภาคธุรกิจทั่วทั้งยุโรป
  • สื่อสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้สั่งการให้คณะที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว ร่างแผน
มาตรการทางภาษีเพื่อเตรียมบังคับใช้กับจีน
  • หัวหน้าผู้แทนเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ทั้ง 11 ประเทศได้เริ่มการเจรจาที่
จะจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ในวันนี้ ที่นครซิดนีย์ เพื่อเดินหน้าผลักดันการนำข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคมาใช้ ภายหลังจากที่สหรัฐ
ได้ถอนตัวจากการเจรจาข้อตกลงดังกล่าว
  • นักลงทุนในตลาดการเงิน จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ส.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงาน

สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์ที่ 1 ก.ย.นี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์

คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.จะขยายตัวเพียง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ขยายตัวมากกว่า 200,000

ตำแหน่ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกันคาดว่าอัตราว่างงานเดือน ส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ