ที่ประชุมรัฐมนตรี RCEP เร่งเจรจาจัดทำความตกลง หวังบรรลุเป้าหมายในปลายปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 13, 2017 09:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 10 ก.ย.60 ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 49 ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ว่า ที่ประชุมได้รับทราบภาพรวมความคืบหน้าของการเจรจาจัดทำความตกลง RCEP ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และคู่เจรจาอีก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยที่ประชุมยืนยันเจตนารมณ์ที่จะร่วมกันเร่งการเจรจาอย่างเข้มข้นและให้มีความยืดหยุ่นในการเจรจามากขึ้น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตามที่ผู้นำต้องการ

นางอภิรดี กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าของการเจรจาในทุกประเด็น และเป็นที่น่ายินดีว่าการเจรจา RCEP มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเจรจาเปิดตลาดและการเจรจากฎเกณฑ์การค้าในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายในการจัดทำความตกลง RCEP ให้เป็นความตกลงที่ทันสมัย มีคุณภาพ ครอบคลุมการเปิดเสรีอย่างรอบด้าน ทั้งการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน

ในส่วนของการเปิดตลาดนั้น ที่ประชุมเน้นย้ำให้สมาชิกดำเนินการปรับปรุงข้อเสนอการเปิดตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพิจารณาตอบสนองต่อข้อเสนอของประเทศสมาชิกอื่นในเชิงบวกและสร้างสรรค์ นอกจากนี้ สำหรับด้านกฎเกณฑ์การค้า รัฐมนตรี RCEP แสดงความพอใจที่ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ และคณะทำงานย่อยด้านมาตรการเยียวยาทางการค้าขึ้นเป็นครั้งแรก อีกทั้งให้ความสำคัญกับการจัดทำกฎเกณฑ์ที่อำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อจะได้ช่วยให้ RCEP เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพ ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีได้ย้ำว่าการเจรจาที่ประสบความสำเร็จได้ จะต้องเกิดจากความเห็นพ้องร่วมกันของทุกฝ่ายและทุกประเทศสามารถปฏิบัติตามได้ด้วย

นางอภิรดี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีของประเทศสมาชิกต่างตระหนักถึงความสำคัญของการประกาศผลสำเร็จของการเจรจา RCEP อย่างมีนัยสำคัญในปี 2560 ซึ่งเป็นปีที่อาเซียนครบรอบ 50 ปี อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ยังคงมีประเด็นคงค้างซึ่งทุกประเทศจะต้องเร่งเจรจาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างมีนัยสำคัญได้

"ได้ขอให้คณะกรรมการเจรจาการค้าและคณะทำงานต่างๆ ร่วมกันทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้การเจรจาในรอบต่อไปในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อสามารถเจรจาได้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และสามารถรายงานความสำเร็จต่อผู้นำในเดือนพ.ย.ต่อไป" นางอภิรดีระบุ

อย่างไรก็ดี หากการเจรจาเป็นผลสำเร็จ RCEP จะกลายเป็นตลาดการค้าและการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งครอบคลุมประมาณหนึ่งในสามของเศรษฐกิจโลก มีประชากรรวมกันกว่า 3.5 ล้านคน มี GDP รวมกันมากกว่า 23 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการค้าของไทยกับประเทศสมาชิก RCEP ในปี 2559 มีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 240 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 59% ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย โดยสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปยังภูมิภาค RCEP ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ยางพารา เครื่องจักรกล เหล็ก เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ