กฟผ.เผยชาวแม่เมาะกว่า 2,300 คนร่วมพิจารณา EHIA โรงไฟฟ้าเครื่องที่ 4-7

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday September 23, 2017 16:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่งแอนด์แมเนจเมนท์ จำกัด และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยชาวอำเภอแม่เมาะพร้อมใจกันมาร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการทบทวนร่างรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) หรือ ค.3 โครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4-7 จำนวน 2,309 คน และร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยวาจา 51 คน โดยมีนายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ซึ่งหลังจากนี้จะจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์ เพื่อส่งให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาต่อไป

น.ส.เบญจภรณ์ บุณยพุกกณะ ผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม บริษัท ทีม คอนซัลติ้งฯ กล่าวว่า จากการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น (ค.1) เมื่อวันที่ 29 เม.ย.60 และการประเมินและจัดทำรายงาน (ค.2) เมื่อวันที่ 13-16 มิ.ย.60 บริษัทฯ ได้นำข้อมูลมาเพื่อจัดทำมาตรการต่าง ๆ ให้ลดข้อห่วงกังวลของประชาชน และมาชี้แจงในประเด็นสำคัญ อาทิ เรื่องการทำ EHIA ใหม่ สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ เพราะถือเป็นการก่อสร้างเพื่อสาธารณประโยชน์ในฐานะองค์กรของรัฐ จึงได้รับการยกเว้นจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในการขอใบอนุญาต ซึ่งใบอนุญาต รง.4 กฟผ.สามารถใช้สิทธิของเครื่องจักรเดิมที่มีอยู่ โดยไม่เข้าข่ายการขยายโรงงาน ทั้งนี้ EHIA ใหม่ ต้องได้รับความเห็นชอบ จึงจะดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้

สำหรับเรื่องขอบเขตพื้นที่ศึกษาได้กำหนดให้ครอบคลุมทั้ง 5 ตำบลของอำเภอแม่เมาะ คือ ตำบลแม่เมาะ ตำบลสบป้าด ตำบลนาสัก ตำบลบ้านดง และตำบลจางเหนือ เรื่องการจ้างงานในพื้นที่ จะมีการกำหนดเป็นนโยบายปฏิบัติให้พิจารณาคัดเลือกคนในอำเภอแม่เมาะเข้ามาทำงานเป็นอันดับ โดยปัจจุบันมีการจ้างงานท้องถิ่นในชุมชนแม่เมาะจำนวนรวมทั้งสิ้น 4,835 คน

ส่วนการแก้ปัญหาอุบัติเหตุและจราจรมีการกำหนดมาตรการความปลอดภัยของผู้สัญจรอย่างชัดเจน โดยจัดเจ้าหน้าที่ดูแลการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนและกำหนดมาตรการลงโทษผู้ขับรถบรรทุกเถ้าลอยหรือรถบรรทุกยิปซัม และหน่วยงานที่ควบคุมดูแลการซื้อขายอย่างชัดเจน รวมทั้งจัดเตรียมรถกู้ภัยและดับเพลิงสำหรับกรณีฉุกเฉิน

สำหรับการแก้ปัญหาอาชญากรรมจากแรงงานต่างถิ่น มีการกำหนดมาตรการควบคุมและแก้ไขปัญหาอย่างเข้มงวด ไม่ให้ทำผิดกฎหมายหรือก่อปัญหากับชุมชน นอกจากนี้ยังกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาการใช้บริการด้านสุขภาพของแรงงานต่างถิ่น โดยจัดให้มีห้องพยาบาล เจ้าหน้าที่ และรถฉุกเฉิน ตลอดบริเวณพื้นที่ก่อสร้างไว้ด้วย

นอกจากนี้ เรื่องการบริหารจัดการเถ้าลอย มีแนวทางให้ชุมชนจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อซื้อเถ้าลอยจาก กฟผ. โดยปัจจุบันได้รับความเห็นชอบแล้ว อยู่ระหว่างการจัดทำให้เป็นไปตามระเบียบ กฟผ.

ด้านกองทุนพัฒนาไฟฟ้า กฟผ. จ่ายเงินตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี ส่วนการบริหารจัดการจะมีคณะกรรมการพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้า โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของการลดฝุ่นและเสียงในขณะก่อสร้าง และการดูแลแหล่งน้ำให้สะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อน

ด้าน ว่าที่ พ.ต.อนุชาต ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการชุมชนสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อมโครงการ กฟผ. เปิดเผยว่า หลังจากเวที ค.3 ในครั้งนี้ บริษัท ทีม คอนซัลติ้งฯ จะนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ ไปพิจารณา และปรับปรุงให้เป็นรายงานฉบับสมบูรณ์เพื่อนำเสนอต่อ สผ. และให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) เป็นผู้พิจารณา หากคณะกรรมการฯ มีข้อเสนอแนะก็ยังสามารถปรับแก้ไขรายงานได้

"ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า กฟผ. มีการดำเนินงานตามข้อบังคับของกฎหมายทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใส โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนอย่างแท้จริง" ว่าที่ พ.ต.อนุชาต กล่าว

ทั้งนี้ ประชาชนยังสามารถแสดงความคิดเห็นรวมถึงข้อเสนอแนะในขั้นตอนการทบทวนร่างรายงาน EHIA (ค.3) ฉบับนี้ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2560 ผ่านทาง 1) อีเมล : weenittha_w@team.co.th และ rattiya_n@team.co.th 2) คุณวีณิฐฐาวรเกียรติธนากร และคุณรัตติยา งามประดิษฐ์ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่งแอนด์แมเนจเมนท์ จำกัด 151 อาคารทีม ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230 และ 3) โทรศัพท์ 0-2509-9000 กด 3201-5 ต่อ 104, 106 4.) โทรสาร 0-2509-9109


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ