CAT โชว์ความแข็งแกร่งโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ มั่นใจเพิ่มศักยภาพ-เสถียรภาพโครงข่ายสื่อสารระหว่างปท.ของไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 28, 2017 17:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) เปิดเผยว่า CATพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลขยายความแข็งแกร่งของโครงข่ายระหว่างประเทศของไทยผ่านระบบเคเบิลใต้น้ำอย่างเต็มที่ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอินเทอร์เน็ตของภูมิภาคอาเซียนได้ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมาย โดย CAT ในฐานะผู้ให้บริการหลักโครงข่ายเชื่อมโยงระหว่างประเทศจากไทยไปยังทุกภูมิภาคของโลกได้ดำเนินการจัดสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบันและได้พัฒนาความสามารถ คุณภาพ และเสถียรภาพระบบเชื่อมโยงให้รองรับปริมาณการใช้ข้อมูลของคนไทยและของภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี

ปัจจุบัน CAT มีระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ จำนวน 6 ระบบ ประกอบด้วย ระบบเคเบิล FLAG (Fiber Optic Link Around the Globe) ระบบเคเบิล SEA-ME-WE 3 (Southeast Asia-Middle East- Western Europe 3) ระบบเคเบิล TIS (Thailand Indonesia Singapore) ระบบเคเบิล SEA-ME-WE 4 (Southeast Asia-Middle East-Western Europe 4) ระบบเคเบิล AAG (Asia-America Gateway) และระบบเคเบิล APG (Asia Pacific Gateway) ซึ่งเป็นระบบล่าสุดที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา

พ.อ.สรรพชัย กล่าวต่อไปว่า นอกจากเคเบิลใต้น้ำทั้ง 6 ระบบของ CAT ที่ให้บริการอยู่ เมื่อรวมกับการเปิดใช้งานของระบบเคเบิล AAE-1 จะทำให้เพิ่มความแข็งแกร่งในด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างประเทศในภาพรวมของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเมื่อมีการรวมธุรกิจโครงข่ายเชื่อมโยงระบบเคเบิลใต้น้ำและดาต้าเซ็นเตอร์ของ CAT และบมจ.ทีโอที (TOT) ภายใต้บริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตจำกัด (NGDC : Neutral Gateway and Data Center Company Limited) จะส่งผลให้ประเทศไทยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคได้ดียิ่งขึ้นโดยไทยจะมีโครงข่ายพื้นฐานระหว่างประเทศที่รองรับการใช้งานของไทยและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคได้อย่างเพียงพอทั้งปัจจุบันและอนาคตตอบสนองการพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการติดต่ออินเทอร์เน็ตและสื่อสารข้อมูลในภูมิภาคเอเชียอย่างมีเสถียรภาพ “ระบบเคเบิลใต้น้ำที่ CAT ใช้งานอยู่มีมาตรฐานการจัดสร้างในระดับสูงมีความสามารถรองรับการใช้งานได้มากกว่า 54 เทราบิตต่อวินาที (Tbps) เมื่อรวมกับการเปิดระบบเคเบิลใหม่ครั้งนี้จะเพิ่มศักยภาพและเสถียรภาพในภาพรวมของโครงข่ายสื่อสารระหว่างประเทศของไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและดึงดูดผู้ประกอบการ Content ต่างๆ ทั้งจากไทยและจากต่างประเทศ ในการใช้ประเทศไทยเป็น Internet Hub ในการกระจายข้อมูลให้กับผู้ใช้บริการในภูมิภาค และสนับสนุนให้ประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางอินเทอร์เน็ตของภูมิภาคอาเซียนตามเป้าหมายของรัฐบาล"พ.อ.สรรพชัย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ