ภาวะตลาดเงินบาท: บาทเปิด 33.13 แนวโน้มแข็งยังค่าต่อ มองกรอบวันนี้ 33.05-33.15

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 2, 2017 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 33.13 บาท/ดอลลาร์ แต่ล่าสุด แข็งค่าไปอยู่ที่ระดับ 33.07 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.12 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นอีก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาเก็งกำไรค่าเงินด้วยการขายดอลลาร์ หลังจากที่ในช่วง ปลายเดือนได้มีความต้องการซื้อดอลลาร์ไปค่อนข้างมากแล้ว ประกอบกับ วานนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ไม่ได้เข้ามาดูแล ค่าเงิน จึงทำให้วันนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าได้ต่อ

นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) รอบนี้ ยังมีมติคงอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเท่าเดิมซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ พร้อมกับตอกย้ำความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยช่วงการประชุมในเดือน ธ.ค.

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า มองกรอบที่ 33.05-33.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.83 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 114.00 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1658 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.1635 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.173 บาท/ดอลลาร์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) หลัง
จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อ
วานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ โดยเฟดยังระบุด้วยว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ มีการขยายตัวอย่าง
แข็งแกร่ง ขณะที่พายุเฮอร์ริเคนไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
  • CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ย
สหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
  • นักลงทุนในตลาดการเงิน จับตาผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งกำลังจะ
หมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า โดยล่าสุดสื่อต่างประเทศชั้นนำ ซึ่งรวมถึงวอลล์สตรีท เจอร์นัล, บลูมเบิร์ก และซี
เอ็นบีซี ต่างก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจเลือกนายเจอโรม พาวเวล ให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง
ประธานเฟดคนใหม่
  • สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
สัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จาก
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้าน
การพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมัน
ดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
การณ์ไว้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 54.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมัน
ดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 60.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • นักลงทุนยังคงขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก จะตกลงขยายเวลาการ
ปรับลดกำลังการผลิตออกไปจนถึงสิ้นปีหน้า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมอย่างเป็นทางการของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.
นี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะอภิปรายในประเด็นการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิต
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) ก่อนที่นักลงทุนจะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ

(เฟด) โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.80 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่

ระดับ 1,277.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยประธานาธิบดีโด

นัลด์ ทรัมป์ จะเปิดเผยชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าวในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ