(เพิ่มเติม1) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.74 รอติดตามประชุมกนง.-จับตาการลงมติมาตรการภาษีสหรัฐฯขั้นสุดท้าย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 20, 2017 14:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.74 บาท/ดอลลาร์ อ่อน ค่าลงจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.69 บาท/ดอลลาร์ และล่าสุดขยับแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32.68 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเริ่มเข้าสู่ช่วงพักตัว เพราะตลาดรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในช่วงบ่ายนี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือจะรอดู statement แนวโน้มเศรษฐกิจไทยว่าทาง กนง.จะยังให้มุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าหรือไม่ หากยังเป็นทิศทางเช่นนั้น ก็มีโอกาสจะทำให้เงินบาทปรับตัวแข็งค่า ขึ้นได้

"ต้องรอดูประชุม กนง.บ่ายนี้ โดยเฉพาะในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจว่าทาง กนง.มองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อไปหรือไม่ เพราะหากเป็นแบบนี้ เงินบาทก็จะมีโอกาสแข็งค่าได้อีก" นักบริหารเงินระบุ

ขณะเดียวกันต้องรอดูว่าวุฒิสภาสหรัฐฯ จะโหวตรับมาตรการภาษีหรือไม่ เพราะปัจจัยนี้จะเป็นแรงหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นได้ แม้จะไม่มากนัก เพราะตลาด Price in กับปัจจัยนี้ไปแล้ว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.60-32.75 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (19 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.44162% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (19 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.90104%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.8083 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.89 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 112.60 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1841 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1803 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8050 บาท/
ดอลลาร์
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ประชุมกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
พร้อมประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 61 ในรายงานเศรษฐกิจและการเงิน
  • สมาคมค้าทองคำ คาดว่าราคาทองคำในปี 61 มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯที่ไม่
แน่นอนในสภาวะที่เศรษฐกิจของสหรัฐยังไม่มีความชัดเจนนัก ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนลดลง โดย
มองกรอบราคาทองคำที่ 1,150-1,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์

ขณะเดียวกันราคาทองคำในประเทศจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นเช่นกัน แม้มีปัจจัยกดดัน คือ การแข็งค่าของเงินบาท โดย มองกรอบราคาทองคำไว้ราว 18,500-22,000 บาท/บาททองคำ

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตือนนักลงทุนที่สนใจลงทุนในเงินสกุลดิจิทัลว่า บิทคอยน์ (Bitcoin) ไม่ใช่เงิน
ที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่เป็นสกุลเงินดิจิทัลสำหรับการลงทุนคล้ายกับการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ และน้ำมัน
ดังนั้นต้องระมัดระวังให้ดี เพราะถือว่ามีความเสี่ยงสูง ราคามีความผันผวนอย่างมาก ขณะที่ ธนาคารกลางทั่วโลกยังไม่มีการ
รับรอง
  • พาณิชย์โชว์ ธุรกิจตั้งใหม่เดือน พ.ย. 6,597 ราย เพิ่มขึ้น 14% รวม 11 เดือน 68,462 ราย เพิ่ม 14% คาดทั้ง
ปีทำได้ถึง 72,000 ราย ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเอกชนมั่นใจเศรษฐกิจ
  • สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย ด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 203 เสียง ก่อนที่
วุฒิสภาจะลงมติในช่วงเช้าของวันพุธที่ 20 ธ.ค.ตามเวลาไทย

หากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาพร้อมใจกันอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ก็จะส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถลงนามรับรองเป็นกฎหมายได้อย่างเร็วที่สุดในวันนี้ และถือเป็นการทำตามคำสัญญาของเขาที่จะมอบการปรับลดภาษีเป็นของ ขวัญวันคริสต์มาสแก่ชาวอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกังวลว่าร่างกฎหมายดังกล่าว อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ไม่มากเท่าที่รัฐบาลคาดหวังไว้ และอาจจะไม่สามารถรองรับผลกระทบในอนาคตที่เกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักลงทุนอีก จำนวนหนึ่งมองว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เอื้อประโยชน์อย่างมากต่อบริษัทเอกชนรายใหญ่และกลุ่มคนรวย แต่มีผลกระทบในด้านบวกไม่มาก นักต่อกลุ่มชนชั้นกลาง

  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. แตะระดับสูงสุดใน
รอบ 1 ปี สวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากการสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใน
รอบ 10 ปี
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ธ.
ค.) ขณะนักลงทุนรอดูผลการลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายในวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่ตลาดปิดทำการแล้ว
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น จากรายงาน
ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านของสหรัฐพุ่งสูงสุดรอบ 1 ปีในเดือนพ.ย.
  • นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐเตรียมเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ประจำไตรมาส 3/2560

ในวันพรุ่งนี้ ส่วนการประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งได้เปิดเผยไปเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า GDP ขยาย

ตัวที่ระดับ 3.3% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 3.0%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ