ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.73 ระหว่างวันค่อนข้างผันผวนตาม Flow-ธุรกรรมเบาบาง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 20, 2017 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.73 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.74 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางการไหลเข้า-ออกของเงินทุนต่างประเทศใน กรอบ 32.68-32.84 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้เงินบาทค่อนข้างผันผวน เนื่องจากมีธุรกรรมเบาบาง ค่าเงินบาทจะปรับเปลี่ยนไปตาม flow ซึ่งมีทั้งไหลเข้าและ ออก ส่วนมติ กนง.ที่ให้คงอัตราดอกเบี้ยไม่มีผลเพราะเป็นไปตามคาด" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.60-32.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 113.16 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.89 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1837 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1841 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,738.16 จุด เพิ่มขึ้น 5.85 จุด, +0.34% มูลค่าการซื้อขาย 48,357.67 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 243.53 ล้านบาท(SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 8/2560 ในวันที่ 20 ธ.ค.60 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ มี
มติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับ
ปัจจุบัน มีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ แม้อาจต้องใช้เวลาอีก
ระยะหนึ่ง จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นับเป็นการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ครั้งที่ 21 ติดต่อกัน โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้น
จากช่วงเช้า และซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 32.72 บาทต่อดอลลาร์ ภายหลังการประชุมของกนง.
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี
นี้เป็น 3.9% จากก่อนหน้าคาดไว้ที่ 3.8% หลังภาพรวมเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ และในปี 2561 คาดว่าจะขยาย
ตัว 3.9% จาก 3.8% เช่นกัน รวมทั้งปรับเพิ่มประมาณการส่งออกในปี 60 เป็น 9.3% จาก 8.0% และในปี 61 เป็น 4.0% จาก
3.2%
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนนตรี เปิดเผยในระหว่างการมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์
โดยระบุว่า การส่งออกของไทยเดือน พ.ย.60 ขยายตัวได้ 13.36% ส่งผลให้การส่งออกในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.
ย.) ขยายตัวได้แล้ว 10.1% พร้อมมั่นใจว่าทั้งปีนี้มูลค่าการส่งออกจะสามารถขยายตัวได้เกินกว่า 10% อย่างแน่นอน
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.60 อยู่
ที่ระดับ 87.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.9 ในเดือนต.ค.60 โดยในเดือนพ.ย. พบว่า อุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก
เดือนก่อนหน้า สะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของดัชนียอดคำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศ โดยมีมาตรการช็อปช่วยชาติ ระหว่างวันที่ 11 พ.
ย. - 3 ธ.ค.60 และการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นแรงกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภค รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริม
การขายของผู้ประกอบการเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการภาครัฐ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการมีการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาล
ปีใหม่
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ย.ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 103,042 คัน
เพิ่มขึ้น 4.64% จากพ.ย.59
  • ส.อ.ท. ตั้งเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปี 61 ไว้ที่ 1.97 ล้านคัน แยกเป็น การผลิตเพื่อขายในประเทศ 8.7 แสน
คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2% จากปีนี้ ส่วนการส่งออก ยังอยู่เท่าปีนี้ที่ 1.1 ล้านคัน
  • วุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 ในช่วงเช้ามืดของวันพูธตามเวลาสหรัฐ
และได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติต่อไป ภายหลังจากที่วุฒิสมาชิกสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการ
เปลี่ยนแปลงของเนื้อหาในนาทีสุดท้าย
  • วุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 ในช่วงเช้ามืดของวันพูธตามเวลาสหรัฐ

และได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติต่อไป ภายหลังจากที่วุฒิสมาชิกสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการ

เปลี่ยนแปลงของเนื้อหาในนาทีสุดท้าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ