นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.82 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 32.79 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 32.78-32.85 บาท/ดอลลาร์
"ขึ้นไปแตะ 32.85 แต่ยืนไม่ได้ก็เลยลงมา ยังเป็นไปตามแรงซื้อดอลลาร์ เพราะการทำธุรกรรมในตลาดค่อนข้างน้อย ซึ่งคาดว่าพรุ่งนี้บรรยากาศก็คงเป็นแบบนี้" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 32.75-32.85 บาท/ดอลลาร์ตามเดิม
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.20 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 113.29 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1887 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1858 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,752.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.41 จุด, +0.02% มูลค่าการซื้อขาย 61,507.53 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 498.73 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในช่วง 4 วันสุดท้ายของช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2561 (30 ธ.
ค.60-2 ม.ค.61) จะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยเข้าสู่ภาคการท่องเที่ยวเป็นมูลค่าประมาณ 34,150
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เร่งผลักดัน 5 โครงการสำคัญในพื้นที่พัฒนา
EEC ในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnerships : PPP) ประกอบด้วย 1.สนามบินอู่
ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก 2.ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา 3.รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 4.ท่าเรือ
แหลมฉบัง ระยะที่ 3 และ 5.ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 รวมวงเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 6 แสนล้านบาท โดยกำหนดร่าง
ขอบเขตงาน (TOR) ทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 61
- กระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.-พ.
ย.60) มีจำนวน 345,044 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 16,894 ล้านบาท หรือ 5.1% แต่ต่ำกว่าช่วง
เดียวกันปีที่แล้ว 6.0%
- กระทรวงการคลัง เปิดเผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ
2561 (ต.ค.-พ.ย.60) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 340,189 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้ง
สิ้น จำนวน 678,549 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 112,613 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน
พฤศจิกายน 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 216,211 ล้านบาท
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 61 จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีนี้ แต่จะผ่อนแรงลงตามปัจจัย
ฐานที่สูงในปี 2560 ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง ตลอดจนวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ผ่อนแรงลง ทำให้การส่งออกสินค้า
ของไทยในปี 2561 ชะลอลงมาอยู่ที่ 4.5% (ในช่วงกรอบประมาณการที่ 2.0-7.0%)
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดตลาดรถยนต์ในปี 61 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมวดรถยนต์นั่งซึ่งจะมีการเปิด
ตัวใหม่ออกมาอีกหลายรุ่น และกำลังซื้อของผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบนัก ซึ่งน่าจะสามารถทำตัวเลขยอดขายได้กว่า 880,000-
900,000 คัน หรือจะขยายตัว 2-5% จากปี 60
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อก
สินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย.