ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.71 แนวโน้มอ่อนค่า มองกรอบวันนี้ 31.65-31.80 นลท.รอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 7, 2018 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.71 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น วันศุกร์ที่ปิดตลาดอยู่ที่ 31.76 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทยังทรงๆ แต่มีแนวโน้มอ่อนค่าหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกต่ำกว่าคาด แต่อัตราการว่างงานต่ำ สุดในรอบ 18 เดือน" นักบริหารเงินระบุ

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ ในคืนวันพฤหัสบดี ที่ 10 พฤษภาคม 2561 (ตามเวลาประเทศไทย) และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทระหว่าง 31.65-31.80 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (4 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.21783% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.31229%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 108.88 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ (4 พ.ค.) ที่อยู่ที่ระดับ 109.10 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1967 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ (4 พ.ค.) ที่อยูที่ระดับ 1.1955 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.6400 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (7-11 พ.ค.) ไว้ที่ 31.50-31.90
บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่การตอบรับของตลาดต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เช่น
เดียวกับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และผลการเจรจาด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ ข้อมูล
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อที่สะท้อนจากดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนเม.ย. นอกจากนี้ ตลาด
อาจรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของจีนด้วยเช่นกัน
  • ธปท.เตรียมเปิดอนุญาต ให้บริการแพลตฟอร์มให้กู้ยืมเงินระหว่างบุคคล หรือพีทูพีเลนดิ้ง รอคลังเซ็นออกประกาศ
เกณฑ์กำกับดูแลเร็วๆนี้ ก่อนทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ ช่วยให้เอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งเงินกู้ง่ายขึ้น และมีต้นทุนที่ถูกลง เผยมี 2 ส่วนคือแพ
ลตฟอร์มสำหรับประชาชนทั่วไปอยู่ภายใต้ธปท. ส่วนแพลตฟอร์มสำหรับนิติบุคคลให้ก.ล.ต.กำกับ
  • บล.ทิสโก้คาดเดือนพฤษภาคมนักลงทุนต่างชาติเตรียมขายหุ้นไทยอีก 5,000-6,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับ 4 เดือน
แรกที่ขายทิ้ง 77,000 ล้านบาท จะเพิ่มเป็นกว่า 80,000 ล้านบาท ขณะที่ 5 ปีที่ผ่านมาขายทิ้งถึง 410,000 ล้านบาท ให้จับตานัก
ลงทุนสถาบันในประเทศจ่อขายหุ้นซ้ำ
  • ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงมีเสถียรภาพ เมื่อพิจารณาจากข้อมูล
ที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิต ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจจีนนั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวแสดงความเห็นว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
2 ครั้งในปีนี้ แม้ว่ามาตรการปรับลดอัตราภาษี, การใช้จ่ายของรัฐบาล และแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใส อาจทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับ
ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้ก็ตาม
  • ผลการวิจัยของ Zurich Insurance Group/EY/Atlantic Council พบว่า หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
(CFO) ทั่วโลกจำนวน 71% เชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงมีความแข็งแกร่งในช่วง 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ 61% มีความมั่นใจ หรือมั่น
ใจอย่างมากในการลงทุนในสหรัฐ
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนเม.ย. โดยเพิ่ม
ขึ้นเพียง 164,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 192,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งใน
เดือนมี.ค. ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า
จะลดลงสู่ระดับ 4.0%
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (4 พ.
ค.) ขานรับอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2543 และยังต่ำกว่าการคาดการณ์ของนัก
วิเคราะห์ โดยนักลงทุนมองว่าข้อมูลดังกล่าวสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐ แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนเม.ย. ก็ตาม
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (4 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้หันมาซื้อทองคำซึ่งเป็น
สินทรัพย์ปลอดภัย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนเม.ย.
  • ตลาดการเงินจับตาท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ซึ่งมีเวลาจนถึงวันที่ 12 พ.ค.นี้ว่า จะตัดสินใจ
ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านหรือไม่ โดยข้อตกลงฉบับนี้เกิดจากลงนามในปี 2558 ระหว่าง
อิหร่านและกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ P5+1 ผ่อน
ปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ปีที่แล้ว ปธน.ทรัมป์
ประกาศไม่ให้การรับรองอิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยระบุว่าอิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว และมีการ
ละเมิดหลายครั้ง
  • วันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนเม.ย. โดยสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ
(NFIB)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ