คลัง ชี้แจงการให้วงเงินชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภคในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 11, 2018 15:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง ชี้แจงเกี่ยวกับการให้วงเงินชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภคในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐว่า วัตถุประสงค์ของการให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการชำระค่าสินค้าหรือบริการที่ร้านค้าหรือหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ยังช่วยให้ภาครัฐสามารถติดตามและประเมินผลการให้สวัสดิการที่ให้การช่วยเหลือได้ ซึ่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถนำไปใช้จ่ายเพื่อชำระค่าสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันที่ประชาชนอุปโภคบริโภคอยู่แล้ว เช่น ข้าวสาร เครื่องปรุงรส เป็นต้น ในวงเงินเดือนละไม่เกิน 300 บาท

ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาพบว่าประชาชนจะมีการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าเหล่านี้ในจำนวนที่สูงกว่าวงเงินข้างต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของครัวเรือน จึงเท่ากับว่าการให้วงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 300 บาท ทำให้ประชาชนมีเงินคงเหลือเพิ่มขึ้น 300 บาท เพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าอื่นๆ ได้ตามที่ต้องการ รวมถึงก๋วยเตี๋ยว เผือกทอด เป็นต้น รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชาชนในการชำระค่าสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันด้วยเงินสดเป็นหลัก ไปสู่ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และลดปริมาณเอกสารทางการเงินเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)

กรมบัญชีกลางได้ดำเนินการติดตั้งเครื่อง EDC ณ ร้านธงฟ้าประชารัฐแล้วจำนวน 18,806 ร้านค้า และพร้อมจะติดตั้งเครื่อง EDC ให้อีก 20,000 ร้านค้าทั่วประเทศภายในเดือนพฤษภาคม 2561 ประกอบด้วยร้านธงฟ้าประชารัฐ 10,000 เครื่อง และร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (ร้านค้าชุมชน) 10,000 เครื่อง โดยได้ติดตั้งเครื่อง EDC ในร้านธงฟ้าประชารัฐระหว่างวันที่ 8 - 12 พฤษภาคม 2561 ไปแล้วจำนวน 9,051 ร้านค้า ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกรมบัญชีกลางและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะพิจารณาคัดเลือกที่ตั้งร้านธงฟ้าประชารัฐเพื่อติดตั้งเครื่อง EDC ให้มีความครอบคลุมพื้นที่และสอดคล้องกับจำนวนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ร้านค้าชุมชนอื่น ๆ ที่มองว่าอาจได้รับผลกระทบจากการถูกแย่งลูกค้าของร้านธงฟ้าประชารัฐนั้น หากร้านค้าชุมชนนั้น ๆ มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐก็สามารถทำได้ และการเข้าร่วมโครงการยังอาจได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนด้วย แต่หากไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ร้านค้าชุมชนอาจปรับเปลี่ยนไปจำหน่ายสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่ยังเป็นที่ต้องการของชุมชน เพื่อสามารถแข่งขันกับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐได้

ร้านธงฟ้าประชารัฐมีความหลากหลายของสินค้า ทั้งด้านยี่ห้อ คุณภาพ และราคา ซึ่งสินค้าที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันที่ปกติมีการซื้อในร้านค้าทั่วไปอยู่แล้วแม้ไม่มีโครงการนี้ ขณะเดียวกันร้านธงฟ้าประชารัฐยังมีสินค้าชุมชนวางจำหน่ายด้วย รวมทั้งปัจจุบันมีร้านค้าชุมชนที่ได้รับการติดตั้งเครื่อง EDC เพื่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยแล้ว ทั้งนี้ ร้านธงฟ้าประชารัฐแต่ละร้านจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าควรจะนำสินค้าใดมาจำหน่ายในร้านค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในชุมชนนั้น

ที่ผ่านมากรมบัญชีกลางได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่อง EDC เพื่อรับชำระค่าสินค้า ดังนั้น จึงมิได้เป็นการเพิ่มต้นทุนให้แก่ร้านค้า ในทางตรงกันข้ามร้านค้ายังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรับชำระค่าสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกเหนือจากการรับชำระค่าสินค้าด้วยเงินสดตามปกติ

การเข้าร่วมเป็นร้านธงฟ้าประชารัฐนั้น ร้านค้าต้องไม่จำหน่ายสินค้าในราคาที่เกินกว่าราคาขายปลีกที่กำหนดไว้ ในกรณีที่ร้านค้าได้จดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้านค้าต้องแสดงใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ. 20) ณ สถานประกอบการในที่เปิดเผย ซึ่งเห็นได้ง่าย และหากร้านค้ายังไม่ได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มในราคาสินค้า ร้านค้าสามารถเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มเติมจากราคาสินค้าที่ยังมิได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มได้ในอัตรา 7% โดยต้องจำหน่ายสินค้าในราคาเดียวกันแก่ผู้ซื้อทุกราย (ซึ่งในประเด็นนี้กระทรวงการคลังได้มีการชี้แจงในรายละเอียดแล้ว ปรากฏตามเอกสารแถลงข่าวกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 75/2561 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2561)

สำหรับประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กรมบัญชีกลางได้มีการตรวจสอบแล้วไม่พบมีการทุจริต

รองโฆษกกระทรวงการคลัง ย้ำว่า การดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยดำเนินการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระดับชาติ คือ การมุ่งสู่สังคมไร้เงินสด นอกจากนี้ยังมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ เนื่องจากเป็นการให้วงเงินใช้จ่ายในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถึงมือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยตรง และในส่วนของร้านธงฟ้าประชารัฐนั้น จุดประสงค์ของการจัดตั้งโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐก็เพื่อเป็นทางเลือกในการซื้อสินค้า และลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้แก่ประชาชน

อย่างไรก็ดี หากพบเห็นร้านธงฟ้าประชารัฐฉวยโอกาสหรือเอาเปรียบประชาชน ขอให้แจ้งเบาะแสชื่อร้านค้าและที่ตั้งร้านค้า ได้ที่กรมสรรพากร สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ