น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงมหาดไทย เพื่อจัดทำแผนการผลิตและการตลาดพืชเกษตรสำคัญอย่างครบวงจรตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สำรวจแนวโน้มการผลิตสินค้าเกษตรหลัก 6 รายการ คือ ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา อ้อย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าผลผลิตจะมีเท่าไร รวมไปถึงผลผลิตในปี 61/62
"เบื้องต้นให้เน้นข้าวและมันสำปะหลังก่อน เพราะตอนนี้เกษตรกรเริ่มเพาะปลูกแล้ว โดยให้ไปสำรวจว่าผลผลิตใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ เพราะดินฟ้าอากาศเปลี่ยนมีผลต่อผลผลิต เพื่อจะได้วางแผนรับมือได้ถูกต้อง หากผลผลิตมีมากเกินไปกว่าความต้องการ พาณิชย์ก็ต้องไปดูว่าจะมีมาตรการอะไรมารองรับ เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาที่เกษตรกรจะขายได้" น.ส.ชุติมากล่าว
โดยในระหว่างนี้ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปจัดทำข้อมูลที่ตนเองรับผิดชอบให้ชัดเจน เช่น พื้นที่การเพาะปลูก ความต้องการใช้ในการผลิตและแปรรูป การจำหน่าย ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ แนวโน้มราคาผลผลิต เป็นต้น และให้นำข้อมูลเหล่านี้ มาหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 11 ก.ค.61 ก่อนจะจัดทำเป็นแผนการผลิตและการตลาดพืชเกษตรที่สำคัญแบบครบวงจรให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.61 จากนั้นจะส่งรายละเอียดให้กับกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำข้อมูลไปสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรและประชาชน ให้สามารถตัดสินใจทำการเกษตรได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม หากจัดทำแผนด้านการผลิตและการตลาดเสร็จแล้วจะจัดทำแผนรับมือสินค้าเกษตรรายการอื่นๆ ต่อไป เช่น ผลไม้ โดยเบื้องต้นคงต้องดูผลผลิตลำไยและลองกองที่กำลังจะออกสู่ตลาด ซึ่งจะต้องวางแผนในการช่วยระบายผลผลิต ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อป้องกันปัญหาราคาตกต่ำ
สำหรับการคาดการณ์ผลผลผลิตข้าวปี 61/62 กระทรวงเกษตรฯ ประกาศพื้นที่ส่งเสริมการปลูกข้าวนาปีจำนวน 58.2 ล้านไร่ ผลผลิต 25.3 ล้านตันข้าวเปลือก ตามกรอบเป้าหมายความต้องการข้าวภายใต้นโยบายการตลาดนำการผลิต โดยราคาข้าวเปลือกเดือนพ.ค.61 ข้าวเจ้าความชื้น 15% เฉลี่ยตันละ 8,017.94 บาท ส่วนมันสำปะหลังคละ กิโลกรัม (กก.) ละ 2.55 บาท ปาล์มน้ำมัน กก.ละ 3.15 บาท ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 เฉลี่ยกก.ละ 45.68 บาท และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้น 14.5% กก.ละ 8.48 บาท