(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.05 แข็งค่าตามตลาดโลก-ภูมิภาค มองกรอบวันนี้ 33.00-33.10

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 2, 2018 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.05 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวัน ศุกร์อยู่ที่ 33.13 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทแข็งค่าตามตลาดโลกและภูมิภาคจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลหลักจากประเด็นที่ผู้นำสหภาพยุโรปตกลงกัน ได้เกี่ยวกับเรื่องผู้ลี้ภัยและคนเข้าเมือง ทำให้มีแรงขายทำกำไรดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง บาทก็ได้อานิสงส์จากประเด็นนี้"นักบริหาร เงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.00-33.10 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (29 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.26081% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.30296%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 33.1183 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 110.97 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 110.70 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1658 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1649 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1660 บาท/
ดอลลาร์
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์เงินบาทสัปดาห์หน้า (2-6 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ
เงินบาทที่ 32.80-33.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ตลอดจนเครื่องชี้ตลาดแรงงานอื่นๆ อาทิ อัตราการว่างงาน ตัวเลข
การจ้างงานภาคเอกชน และค่าจ้าง รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน และราย
จ่ายเพื่อการก่อสร้าง เดือนพ.ค.

อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯจะปิดทำการในช่วงกลางสัปดาห์เนื่องในวัน Independence Day

  • รมว.เศรษฐกิจจาก 16 ประเทศเอเชียแปซิฟิกได้มาร่วมประชุมกันที่กรุงโตเกียวในวันนี้ โดยหวังที่จะผลักดันข้อตกลง
การค้าเสรีในภูมิภาค ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้าที่ขยายวงกว้าง
  • รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปรับลดอัตราภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ในวันนี้ โดยคำสั่งดังกล่าวครอบคลุมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคและ
ยานยนต์ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดนำเข้าของประเทศ
  • รายงานจากศูนย์วิจัยของแบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชันส์ (BOCOM) ของจีนระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็น
มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ มีแนวโน้มที่จะขยายตัวขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายปีในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าเล็ก
น้อย
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 51.0 ในเดือนมิ.ย.
ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 51.1 ในเดือนพ.ค. เนื่องจากยอดส่งออกล็อตใหม่ในภาคการผลิตปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
  • รัฐมนตรีมหาดไทยของเยอรมนีได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อคืนนี้ และยังได้ลาออกจากตำแหน่งประธานพรรค
สหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ด้วยเช่นกัน อันเนื่องมาจากข้อพิพาทระหว่างนายซีโฮเฟอร์ และนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรี
เยอรมนี เกี่ยวกับนโยบายผู้ลี้ภัย

นายซีโฮเฟอร์ได้ประกาศการลาออกในระหว่างการประชุมพรรค CSU ที่เมืองมิวนิค โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้น เพื่อประเมินว่า ที่ประชุมจะยอมรับข้อเสนอของนางแมร์เคิลในประเด็นนโยบายผู้ลี้ภัยที่ได้มีการบรรลุข้อตกลงในการประชุมสุดยอดของ สหภาพยุโรป (EU) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหรือไม่

  • นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเปิด
เผยในวันศุกร์นี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางอัตรา
ดอกเบี้ย
  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เตรียมเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 12-
13 มิ.ย. ในวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันศุกร์นี้ตามเวลาไทย
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อ
เนื่อง ทั้งการส่งออก การขับเคลื่อนงบประมาณ การลงทุน ความมั่นใจของนักลงทุนที่มีมากขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นอย่างต่อ
เนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าในปีนี้โดยเฉลี่ยแล้วเศรษฐกิจเติบโตเกิน 4% ขึ้นไปแน่นอน ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับภายในประเทศเอง จึง
เชื่อว่าอนาคตประเทศไทยค่อนข้างสดใส
  • นายวีระพล จิรประดิษฐกุล คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ในฐานะโฆษกของกกพ. เปิดเผยว่า กกพ.จะ
มีการประชุมเพื่อพิจารณาราคาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) งวดเดือนก.ย.-ธ.ค.61 ในวันที่ 4 ก.ค.นี้ และจะมีการแถลง
ข่าวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ เบื้องต้นประเมินว่าราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้เอฟทีเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 สตางค์
ต่อหน่วย แต่เงินบาทช่วงคำนวณค่าเอฟทีที่ค่อนข้างแข็งค่า บวกกับกกพ.มีเงินสะสมส่วนต่างราคาค่าไฟฟ้ามากกว่า 6,500 ล้านบาท
จึงมั่นใจว่าจะตรึงค่าเอฟทีงวดใหม่ให้เท่ากับเอฟทีงวดปัจจุบัน คือเดือนพ.ค.-ส.ค.61 คือ ติดลบ 0.15 บาทต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่า
ไฟฐานจะทำให้ประชาชนจ่ายค่าไฟฟ้าคงเดิม คือ 3.5966 บาทต่อหน่วย(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ