รมว.เกษตรฯ มอบนโยบายผู้ตรวจราชการทุกหน่วยงานในสังกัดติดตามการดำเนินงานโครงการไทยนิยมยั่งยืน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 4, 2018 15:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังประชุมมอบนโยบายและแนวทางการตรวจติดตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ว่า ได้เชิญผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ทั้ง 12 คน ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับซี 10 และผู้ตรวจราชการทุกหน่วยงานในสังกัด มารับฟังการมอบแนวทางการติดตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน โดยได้มอบการดำเนินงานดังนี้ 1) มอบอำนาจให้ผู้ตรวจราชการฯ ตรวจติดตามงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล งานเร่งด่วน 2) งานในอำนาจหน้าที่ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน และ 3) งานริเริ่มด้านการเกษตร

สำหรับความก้าวหน้าโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จำนวน 2 แผนงาน 22 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 24,000 ล้านบาท ขณะนี้มีความก้าวหน้า 15-20% เนื่องจากโครงการที่ได้รับงบประมาณกว่า 13,000 ล้านบาท เป็นโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำระดับชุมชน ซึ่งต้องรอให้ฝนหยุดตกก่อนจึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ และโครงการส่วนใหญ่ของกระทรวงเกษตรฯ เป็นโครงการที่เกี่ยวกับการอบรมด้านอาชีพ ซึ่งต้องรอรายชื่อผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่แจ้งความประสงค์เข้าอบรมพัฒนาอาชีพ ขณะนี้บางโครงการมีผู้แจ้งความประสงค์เข้าอบรมเกินโควตา บางโครงการมีผู้ลงทะเบียนไม่ถึงโควตาที่กำหนด ทั้งนี้ได้เตรียมหารือกระทรวงการคลังให้กระทรวงเกษตรฯ สามารถดำเนินการเกลี่ยจำนวนผู้ลงทะเบียนให้สามารถรับประโยชน์ในการเบิกจ่ายค่าเดินทางเพิ่มอีกคนละ 250-300 บาท โดยโอนผ่านบัญชีธนาคาร จากเดิมที่จะได้รับจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคนละ 400 บาท

ส่วนการจัดซื้อเครื่องมือทางการเกษตรของสหกรณ์การเกษตรงบประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท โดยเป็นเงินในการอุดหนุนสหกรณ์การเกษตร 300 แห่ง ในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการเกษตร อาทิ รถยก สร้างลานตาก จัดซื้ออุปกรณ์อบแห้ง เป็นต้น โดยเบิกจ่ายผ่านกรมส่งเสริมสหกรณ์ นั้น มีการเสนอราคาแตกต่างกัน เนื่องจากรายละเอียดและคุณสมบัติของเครื่องมือ ซึ่งได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจลงไปตรวจสอบโดยด่วนแล้ว สำหรับระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างที่ติดขัดอยู่นั้น กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งหารือร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป และยังไม่เกิดความเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาอาชีพชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความยั่งยืน กิจกรรมส่งเสริมการลดพื้นที่ปลูกยาง โดยการโค่นสวนยางเดิมที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินชดเชยไร่ละ 16,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้ผู้ปลูกยางพาราปรับเปลี่ยนไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมใหม่ ขณะนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจข้อเท็จจริงและชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรในพื้นที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ