"สมคิด" มอบนโยบายก.เกษตรฯ ดันปฏิรูปสู่รูปธรรม พร้อมบูรณาการภาครัฐและเอกชนแก้ปัญหาด้านเกษตรอย่างยั่งยืน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 16, 2018 15:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า การหารือประเด็นสำคัญและติดตามความก้าวหน้างานตามนโยบายในวันนี้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมแผนการดำเนินงานและสามารถดำเนินการได้ทันทีในวันที่ 1 ส.ค.นี้ และคาดว่าจะเห็นผลความก้าวหน้าภายในวันที่ 15 ส.ค.ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาตรวจเยี่ยมอีกรอบหนึ่งด้วย

สำหรับประเด็นที่หารือกันในวันนี้ ได้แก่ การปฏิรูปภาคเกษตร โดยการสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลังในพื้นที่ที่เหมาะสม แทนการปลูกข้าวนาปรัง รอบ 2 – 3 มีพื้นที่ราว 2 ล้านไร่เศษ ทางกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมหารือภาคเอกชนในการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง รวมถึงพืชอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรที่จะปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นว่ามีตลาดรองรับแน่นอน ส่วนราคารับซื้อจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาต้นทุนการผลิตและมากกว่าราคาข้าวที่เคยขายได้

นอกจากนี้ยังเตรียมมาตรการสนับสนุนด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม อาทิ สนับสนุนปัจจัยการผลิต และเงินทุน เป็นต้น ขณะที่สถานการณ์ผลไม้ที่กำลังทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงเกษตรฯ มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ทำหน้าที่เป็นเสมือนล้ง ในการรวบรวมผลไม้จากเกษตรกรนำมาบรรจุหีบห่อ จากนั้นส่งขายให้ผู้บริโภคโดยตรงผ่านไปรษณีย์ไทย ซึ่งถือเป็นการกระจายสินค้าและช่วยแก้ปัญหาสินค้าล้นตลาดด้วย

สำหรับการดำเนินงานด้านสหกรณ์ ได้เตรียมหารือธนาคารทั้งภาครัฐและเอกชน ในการสนับสนุนด้านเงินทุนเพื่อต่อยอดกิจการของสหกรณ์การเกษตรที่มีความเข้มแข็ง 800 แห่งทั่วประเทศ และในส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ ได้เตรียมตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ ซึ่งประกอบไปด้วย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเข้าไปกำกับดูแลกิจการให้มีประสิทธิภาพ มีการบริหารงานที่เป็นมืออาชีพ และมีความเข้มแข็งต่อไป

ขณะที่สถานการณ์ด้านราคายางพารายังทรงตัว ภายหลังการดำเนินงานมาตรการเสริมสร้างศักยภาพเพื่อขยายตลาดคู่ค้ายางพาราไทย ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี มียอดการสั่งซื้อยางพาราเข้ามาเดือนละ 50,000 ตัน หรือประมาณปีละ 600,000 ตัน ส่วนมาตรการปรับเปลี่ยนการปลูกยางไปปลูกพืชอื่นตามความเหมาะสมของพื้นที่ ได้เพิ่มเป้าจาก 400,000 ไร่ เป็น 600,000 ไร่ โดยตั้งเป้าราคายางเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 60 บาท/กิโลกรัม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ