ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.24/26 แกว่งแคบ ตลาดรอติดตามถ้อยแถลงประธานเฟดเกี่ยวกับนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 17, 2018 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.24/26 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 33.25 บาท/ดอลลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ที่ระดับ 33.23-33.27 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากคาดว่าตลาดคงรอปัจจัยใหม่ๆ จากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจ สหรัฐฯ ต่อคณะกรรมาธิการบริหารการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ และการแถลงต่อคณะกรรมาธิการธนาคารประจำวุฒิสภาใน วันถัดไป

"วันนี้บาทวิ่งแคบๆ คงรอดูปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังคำแถลงการณ์ครึ่งปีของประธานเฟดที่จะมีต่อสภาสหรัฐ" นัก
บริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.15-33.35 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.38/41 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.42 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1729/1731 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1704 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,626.07 จุด ลดลง 1.62 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 47,970 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 28.44 ลบ. (SET+MAI)
  • ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) มีมติให้เลื่อน
การบังคับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ออกไป 1 ปี เป็นวันที่ 1 ม.ค.63 จากกำหนดเดิมวันที่ 1 ม.ค.62 แต่ทั้งนี้ หากองค์กรหรือภาค
ธุรกิจรายใดมีความพร้อมก็สามารถเริ่มใช้ไปก่อนได้ โดยเห็นว่าการเลื่อนบังคับใช้ IFRS9 ออกไปจะช่วยให้ทุกฝ่ายได้มีเวลาทำความ
เข้าใจมากขึ้นในการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ ซึ่งระหว่างนี้จะให้เวลาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 1 เดือน เพื่อไปจัดทำ Action Plan
เพื่อใช้เป็นแผนสำหรับเตรียมความพร้อมในการบังคับใช้ IFRS9 ต่อไป
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทย มิ.ย.61 อยู่ที่
48.4 เพิ่มขึ้นจาก 47.7 ในเดือนพ.ค.61 โดยปัจจัยบวกที่มีผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นฯ ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล,
การอ่อนค่าของเงินบาท, ส่งออก-ท่องเที่ยวขยายตัวดี, พืชผลทางการเกษตรบางรายการปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ปัจจัยลบ ได้แก่ ความ
กังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของไทย, ต้นทุนของผู้ประกอบการยังอยู่ในระดับสูง, ภาคครัวเรือนระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย, ความ
กังวลปัญหาสงครามการค้า และคู่แข่งทางธุรกิจเพิ่มขึ้น เป็นต้น
  • คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนยังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการ
เติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ที่ระดับ 6.5% แม้ว่าสถานการณ์ด้านการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นอุปสรรค
สำหรับเศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งปีหลัง
  • นักลงทุนติดตามการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ เช่น ฝั่งยุโรป การรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.
ย., ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ค., ฝั่งสหรัฐฯ เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ
หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. เป็นต้น
  • รัฐสภาอังกฤษ มีมติเห็นชอบแผนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ด้วย

คะแนนเสียง 318-285 แม้ต้องเผชิญกับวิกฤตการเมือง หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ

Brexit หลายคนได้ยื่นหนังสือลาออก เพื่อแสดงจุดยืนประท้วงต่อต้านแผนการดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ