ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.45 อ่อนค่าในรอบ 9 เดือนตามทิศทางภูมิภาค หลังเงินไหลออก พรุ่งนี้มีลุ้นแตะ 33.50

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 19, 2018 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่าเงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 33.33 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาคและเงินหยวน ประกอบกับมีเงินทุนต่าง ประเทศไหลออก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.33-33.45 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เงินบาทไปทำนิวไฮในรอบ 9 เดือนกว่า นับตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.60 ที่ระดับ 33.45 บาท/ดอลลาร์

"บาททยอยอ่อนค่าจากช่วงเช้าตามภูมิภาคและมี flow ไหลออกด้วย ระหว่างวันไปทำ new high ในรอบ 9 เดือน กว่าๆ ที่ระดับ 33.45 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.40-33.50 บาท/ดอลลาร์

"พรุ่งนี้บาทมีโอกาสอ่อนค่าไปทดสอบที่ระดับ 33.50 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 113.00 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.78 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1605 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1650 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,646.89 จุด เพิ่มขึ้น 11.04 จุด, +0.67% มูลค่าการซื้อขาย 42,436.68 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 422.05 ล้านบาท(SET+MAI)
  • รมว.คลัง เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 61-62 รัฐบาลจะยังใช้
นโยบายขาดดุลงบประมาณราว 4.5 แสนล้านบาท/ปี ซึ่งรัฐเน้นการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ขณะเดียวกันกระทรวง
การคลังจะดูแลภาระหนี้ด้วย
  • ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อกังวลว่าเมื่อสถาบันการเงินใช้ TFRS 9 แล้วจะต้องมีการกันสำรองเพิ่ม
ขึ้น และจะส่งผลให้ปล่อยกู้ยากขึ้นนั้น จากผลการศึกษาฯ ทำให้ กกบ.ทราบว่าสถาบันการเงินได้มีการทยอยกันสำรองมาอย่างต่อ
เนื่อง และมีการเตรียมความพร้อมให้กับสถาบันการเงินด้านองค์ความรู้ และให้สถาบันการเงินเตรียมการด้านบุคลากรและระบบงาน
ไว้ตั้งแต่ปี 2558 และให้ใช้หลักการของการกันสำรองตาม IFRS 9 ตั้งแต่ปี 2559 แล้ว โดยการปล่อยกู้จะเป็นไปตามนโยบายการ
บริหารความเสี่ยงของแต่ละธนาคาร ที่พิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้เป็นหลัก
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) แจ้งว่าธนาคารคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 2561 จะอยู่ในช่วงร้อย
ละ 8-10 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่เคยประกาศไว้เมื่อช่วงต้นปีที่คาดสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 6-8 เนื่องจากมองว่าในช่วงที่เหลือ
ของปีนี้ ในกรณีที่ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนไม่รุนแรงขึ้น เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่องและสูงกว่าที่เคย
ประเมินไว้เดิม
  • รมช.พาณิชย์ มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 24-27 กรกฎาคม 2561 เพื่อ
พบปะหารือกับผู้แทนระดับสูงของสหรัฐฯ รวมทั้งภาคเอกชนสหรัฐฯ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้หารือประเด็นด้านเศรษฐกิจการค้าการ
ลงทุน
  • หัวหน้าคณะเจรจาจาก 11 ประเทศสมาชิกข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) เห็นพ้องให้
เริ่มกระบวนการเจรจาเพื่อเปิดรับประเทศสมาชิกใหม่ในปี 2562
  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงาน "Asian Development Outlook" ในวันนี้ โดย
ADB ยังคงคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ปี 2561 และ
2562 เอาไว้ที่ระดับ 6.0% และ 5.9% ตามลำดับ ทั้งนี้ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 4.2% จากระดับ
4.0% แต่ปรับลดคาดการณ์ GDP ของอินโดนีเซียในปีนี้ลงสู่ระดับ 5.2% จากระดับ 5.3%
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในรายงานวิเคราะห์ว่า หากสหรัฐมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถ
ยนต์แล้ว สงครามการค้ากับสหรัฐครั้งนี้อาจทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นหดตัวลงมากถึง 0.6%
  • สหภาพยุโรป (EU) ประกาศใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็ก เนื่องจากความกังวลว่าจะมีผลิตภัณฑ์เหล็ก
จำนวนมากทะลักเข้าตลาด EU ซึ่งเป็นผลจากการเรียกเก็บภาษีเหล็กของสหรัฐเพิ่มเติมเมื่อเร็วๆ นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ