นายกฯ สั่งกระทรวงดีอีตั้งคณะทำงานร่วมผู้ตรวจสำนักนายกฯ ประเมินผลโครงการเน็ตประชารัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 28, 2018 17:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีข้อสั่งการไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือโครงการเน็ตประชารัฐ ที่มีข้อร้องเรียนเรื่องคุณภาพของสัญญาณ และการเข้าถืงการใช้งานด้วย และรายงานให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทราบภายใน 1 เดือน

พร้อมกันนี้ ยังให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจร่วมกับหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง, กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นต้น เพื่อทำหน้าที่บูรณาการและขับเคลื่อนการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุผล ใน 2 เรื่องหลักทื่สำคัญ คือ สังคมไร้กระดาษ (paperless) และสังคมไร้เงินสด (cashless)

โดยให้กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลกลาง ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญจากหน่วยงานของรัฐและเอกชนผ่านเลขประจำตัวประชาชน โดยมีระบบรองรับให้หน่วยงานอื่นสามารถเข้าถืงและใช้ประโยชน์ข้อมูลได้ เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล และในกรณีที่ตัองมีการยืนยันตัวตนก็ให้สามารถทำได้โดยอาศัยข้อมูลทางชีวนิติ (biometrics) เช่น ลายนี้วมือ หรือม่านตา เป็นต้น

ขณะเดียวกันยังให้กระทรวงการคลัง พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการจูงใจ เช่น มาตรการด้านภาษีและค่าธรรมเนียม เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ประกอบการซื้อขายสินคา ชำระเงิน หรือทำธุรกรรมอื่น ๆ ผ่านระบบพร้อมเพย์มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการต่าง ๆ เพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมเศรษฐกิจดิจิทัล และรัฐบาลดิจิทัลตามนโยบาย 4.0 เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ทั้งนี้ บมจ.ทีโอที ได้ติดตั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือเน็ตประชารัฐ ครบ 24,700 หมู่บ้านเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ 18 ธ.ค.60 และผ่านขั้นตอนของการตรวจรับไปแล้วหลายพื้นที่ อีกทั้งยังได้รับจัดสรรงบประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท ทำโครงการเพื่อสร้างการรับรู้และสร้างเทรนเนอร์ให้ทุกหมู่บ้าน เพื่อสอนการใช้งานที่ถูกต้องและปลอดภัย วงเงิน 450 ล้านบาท และอีก 600 ล้านบาท จากงบกลาง ค่าใช้จ่ายส่งเสริม และสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2560

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกไปยังโรงเรียน 4,200 แห่ง รวม 420 ล้านบาท และโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบลอีก 800 แห่ง เป็นเงิน 160 ล้านบาท ซึ่งจะติดตั้งให้เสร็จภายใน ก.ย.61


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ