คลัง เผยหนี้สาธารณะคงค้างสิ้น ก.ค. 61 อยู่ที่ 40.88% ของ GDP

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 6, 2018 16:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 มีจำนวน 6,557,290.60 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40.88% ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 5,251,290.17 ล้านบาท, หนี้รัฐวิสาหกิจ 922,047.84 ล้านบาท, หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 375,133.92 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 8,818.67 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. หนี้รัฐบาล จำนวน 5,251,290.17 ล้านบาท มีรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของหนี้รัฐบาล ดังนี้

  • การกู้เงินภายใต้แผนที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 เพิ่มขึ้น 23,200 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยนำไปลงทุนในการพัฒนาประเทศสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้
  • การชำระคืนหนี้เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและการบริหารหนี้ จำนวน 10,383 ล้านบาท
  • การชำระคืนหนี้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ จำนวน 1,381 ล้านบาท
  • การกู้เพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศเพิ่มขึ้น 2,205.79 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการกู้ให้กู้ต่อแก่ (1) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,205.10 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน (2) การรถไฟแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 945.12 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ โครงการก่อสร้างทางคู่ ช่วงนครปฐม – ชุมพร และโครงการก่อสร้างทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ และ (3) การเคหะแห่งชาติเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 55.57 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการอาคารพักอาศัยแปลง G ตามแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง

ทั้งนี้ เมื่อโครงการต่างๆ แล้วเสร็จคาดการณ์ว่าจะสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ

โครงการลงทุนของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่อยู่ระหว่างการเบิกจ่าย เมื่อแล้วเสร็จจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจประมาณ 15.72 % ของมูลค่าการลงทุนของโครงการ จากการเพิ่มประสิทธิภาพ ของการขนส่งทางรถไฟ ลดระยะเวลาการเดินทาง กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ลดอุบุติเหตุบนท้องถนน และเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางของประชาชน

โครงการลงทุนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เมื่อแล้วเสร็จจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจประมาณ 15.13 % ของมูลค่าการลงทุนของโครงการ และประโยชน์ที่สังคมได้รับ ได้แก่ การประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ประหยัดเวลาของผู้ใช้ยานพาหนะ ลดความเสียหายจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม

  • หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,233.83 ล้านบาท จากการเบิกจ่ายและชำระคืนเงินกู้สกุลต่างๆ การบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

2. หนี้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 922,047.84 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก

  • หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน ลดลงสุทธิ 28.15 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
  • หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน เพิ่มขึ้นสุทธิ 3,131.22 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 375,133.92 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 1,272.85 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

4. หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 8,818.67 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 19.34 ล้านบาท เนื่องจากหนี้ที่ลดลงของสำนักงานธนานุเคราะห์

สำหรับหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 6,557,290.60 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ 6,300,573.04 ล้านบาท หรือ 96.09% และหนี้ต่างประเทศ 256,717.56 ล้านบาท (ประมาณ 7,719.46 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือ 3.91% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และหนี้สาธารณะ คงค้างแบ่งตามอายุคงเหลือ สามารถแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,672,526.27 ล้านบาท หรือ 86.51% และหนี้ระยะสั้น 884,764.33 ล้านบาท หรือ 13.49% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ