(เพิ่มเติม) "สมคิด"สั่งคมนาคมเร่งผลักดันโครงการใหม่ทั้งรถไฟ-ท่าเรือ-สนามบินในช่วง 5 เดือนนี้ หากรอรบ.ใหม่คาดล่าช้า

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 8, 2018 16:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวในที่ประชุมติดตามการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมวันนี้ที่มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และผู้บริหารกระทรวงคมนาคมเข้าร่วมว่า ในช่วงเวลา 5 เดือนนี้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งและจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ต้องการให้โครงการคมนาคมขนส่งของกระทรวงคมนาคมเร่งรัดโครงการให้แล้วเสร็จ และให้ดำเนินโครงการคมนาคมสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองด้วย

"ไม่ต้องห่วงเรื่องงบประมาณ ขอให้คิดว่าจะไปท่องเที่ยวเมืองรองอย่างไร การท่องเที่ยวฯจะสามารถเข้ามาช่วยอย่างไร ถ้าเราเอาจริงเอาจัง เราช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการของการท่าเรือฯหรือโครงการต่างๆ ... อีก 3 เดือนจะเปิดการเลือกตั้ง อีก 2 เดือนก็จะมีรัฐบาลใหม่ เพราะฉะนั้น ระหว่างนี้อย่าทำอะไรให้เสียเวลา อย่าไปรอเลือกตั้งรอรัฐบาลใหม่ ไม่เช่นนั้นจอดไม่ต้องแจว...เมื่อเรือบิน รถไฟ ถนนเกิดบ้านเมืองก็จะได้เจริญ ไม่ใช่รอให้เมืองเจริญ"นายสมคิด กล่าวกับในที่ประชุม

ขณะเดียวกันได้กำชับให้นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เร่งจัดทำแผนการจัดหาเครื่องบินใหม่ ในเวลา 30 วัน จากที่นายสุเมธ ระบุจะใช้เวลาภายใน 45 วัน ซึ่งจะนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รอบใหม่ โดยก่อนหน้านี้การบินไทยได้เคยมีแผนจะจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ แต่รอบใหม่นี้มีแผนจัดหา 23 ลำ ดังนั้นจะต้องทบทวนแผนการบิน และเส้นทางบินใหม่

"ไม่ต้องถึง 45 วัน เป็น 30 วัน เรื่องลดต้นทุนก็ต้องลง ธุรกิจก็ต้อง Expand ให้มากขึ้น เอาใหม่ไปคุยเรื่องนี้ให้เร็ว เอากรรมการสามารถมานั่งคุย ภายในธันวาคมนี้ต้องให้จบ Investor รออยู่ ถ้ามีปัญหาเปลี่ยนบอร์ด ท่านสุเมธ อธิบดีกรมสรรพากร ถ้าทำไม่ได้ก็เปลี่ยน ทำให้ดี ๆ ภายในธันวาคมนี้ให้จบ ไม่มีข้อต่อรอง"รองนายกรัฐมนตรีกล่าว

พร้อมกันนี้ รัฐบาลต้องการเร่งดำเนินการประกวดราคารถไฟฟ้าอย่างน้อย 1 สาย หรือ 2 สาย ภายใน 1-2 เดือนนี้ รวมทั้งโครงการรถไฟรางเบาที่ จ.ภูเก็ต โดยขอให้ดำเนินการเร็วกว่ากำหนดการที่จะนำเข้า ครม.อนุมัติในเดือน เม.ย.62

นายสมคิด กล่าวด้วยว่า กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (TFFIF) ที่เตรียมเสนอขายในเร็วๆ นี้ ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมากและได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดขายให้ประชาชนรายย่อยมากกว่านักลงทุนสถาบัน และให้กรมทางหลวงไปพิจารณาจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ล็อตที่ 2 ซึ่งโครงการมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวง ก็จะสามารถสร้างรายได้ที่แน่นอนเข้ามาได้ โดยรอจังหวะเสนอขายในปีหน้า

ทั้งนี้ กรมทางหลวง อยู่ระหว่างการดำเนินก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน - นครราชสีมา มูลค่า 8.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 40 สัญญา งานก่อสร้างก้าวหน้า 51% และสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 25 สัญญาเหลือ 1 สัญญายังไม่ลงนาม งานก่อสร้างก้าวหน้า 13% ล่าช้ากว่าแผน โดยทั้ง 2 เส้นทาง คณะกรรมการมาตรา 35 อยู่ระหว่างจัดทำ TOR ให้เอกชนรวมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) คาดออก TOR ได้ต้นปี 62

รองนายกรัฐมนตรี ยังได้ให้นโยบายหน่วยงานคมนาคมและรัฐวิสาหกิจ ขยายขอบข่ายการทำงานในต่างประเทศ เช่นในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีความสามารถ อาทิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ที่สามารถรับบริหารสนามบินได้ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ที่มีแผนจะขยายการบริการเดินเรือไปที่จิตตะกอง (บังคลาเทศ), เชนไน (อินเดีย) และคอมลับโบ (ศรีลังกา)

พร้อมกันนี้ ยังได้เร่งรัดการจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้ได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ พัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งให้พิจารณาแนวทางการพัฒนาท่าเรือชุมพรและท่าเรือสุราษฎร์ธานี เพื่อขยายขีดความสามารถการขนส่งทางทะเลของประเทศไทย และเร่งรัดการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต 2 ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 2 ท่าอากาศยานเบตง และท่าอากาศยานมุกดาหาร รวม 4 สนามบินใหม่ที่ AOT และกรมท่าอากาศยานดูแลอยู่

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ตามแผนงาน กระทรวงคมนาคมเตรียมจะนำเสนอหลายโครงการต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในระหว่างเดือน ต.ค.61-ก.พ. 62 พร้อมเร่งรัดทุกโครงการ โดยในเดือนต.ค.นี้ โครงการที่จะนำเสนอครม. ได้แก่ โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 มีโครงการท่าเรือ F มูลค่า 8.4 หมื่นล้านบาทและโครงการท่าเรือ E รวมทั้งหมดมูลค่า 1.14 แสนล้านบาท มีกำหนดลงนามสัญญาใน มี.ค. 62 และโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน ที่อู่ตะเภา (TG MRO Campus) มูลค่าราว 1.05 หมื่นล้านบาท ซึ่ง THAI ร่วมทุนกับแอร์บัส มีกำหนดลงนามสัญญา กพ..62 ทั้งสองโครงการได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดอีอีซี) แล้ว

รวมทั้งโครงการมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม- ชะอำ มูลค่า 7.7 หมื่นล้านบาทของกรมทางหลวง ศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม และ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่ง เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งทั้ง 3 โครงการได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ PPP โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)จะนำเสนอต่อครม.

ในเดือน พ.ย.นี้ จะนำเสนอโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้แก่ สายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต- ม.ธรรมศาสตร์รังสิต มูลค่า 6.5 พันล้านบาท สายสีแดงอ่อนช่วง ศิริราช - ตลิ่งชัน มูลค่า 7.4 พันล้านบาท และ ตลิ่งชัน - ศาลายา มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท โดยระหว่างนี้เตรียมเสนอคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)อนุมัติโครงการเสียก่อนเข้าครม.

รมว.คมนาคม กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาท และ โครงการการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยระหว่างนี้รอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนนำเสนอต่อครม.ในเดือน ธ.ค.นี้

ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคมเตรียมนำโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน - บางขุนนนท์ มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน - ราษฎร์บูรณะ มูลค่า 1.3 แสนล้านบาท ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เสนอต่อคณะกรรมการ PPP และครม.ภายในปลายปีนี้

นายอาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้เตรียมเสนอโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 โดย ธ.ค.นี้จะเสนอ ครม. 4 โครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 3.75 หมื่นล้านบาท, ทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 2.67 หมื่นล้านบาท ทางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 8.12 พันล้านบาท และเส้นทางใหม่ทางคู่บ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม 6.8 หมื่นล้านบาท

ส่วนในเดือ ม.ค.62 จะมีโครงการรถไฟทางคู่ช่วงปากน้ำโพ - เด่นชัย 6.28 หมื่นล้านบาท ทางคู่ช่วงชุมพร - สุราษฎร์ธานี 2.42 หมื่นล้านบาท ทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี - สงขลา 5.73 หมื่นล้านบาท ทางคู่ช่วงเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ 8.53 หมื่นล้านบาท และโครงการจัดซื้อเครื่องบินของการบินไทย วงเงินราว 1 แสนล้านบาท

ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงฯ มีโครงการที่เตรียมเสนอเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณาอนุมัติภายใน ต.ค.61 - ม.ค. 62 รวมจำนวน 20 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้นราว 1 ล้านล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ