ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบปรับที่ตัวสูงขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนั้น เป็นผลจากอุปสงค์ที่พุ่งสูงขึ้นประกอบกับต้นทุนด้านการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กวิ่งขึ้นไปแตะระดับ 100.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนที่จะถอยร่นลงมาปิดที่ 99.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นายชาคิบ เคลิล รัฐมนตรีน้ำมันของอัลจีเรีย ในฐานะประธานกลุ่มโอเปคกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในขณะนี้ เคลื่อนไหวตามราคาซื้อขายที่แท้จริงเมื่อพิจารณาจากภาวะเงินเฟ้อ นายเคลิลกล่าวว่า อุปสงค์น้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากความต้องการใช้น้ำมันจากจีนและอินเดีย รวมถึงกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล "เมื่อพิจารณาจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่า ราคาน้ำมันที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลไม่ใช่ระดับที่สูงจนเกินไป" นายคาลิลระบุ อย่างไรก็ตาม นายเคลิลให้ความเห็นว่า "ราคาน้ำมันน่าจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มกลับมีเสถียรภาพอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่สอง" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน