พาณิชย์ แนะผู้ผลิตสินค้าสิ่งทอภายในบ้านฉวยโอกาสตลาดอุตฯก่อสร้างในเยอรมนีโต เร่งขยายตลาด

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ได้รายงานผลการติดตามแนวโน้มการส่งออกสินค้าสิ่งทอสำหรับของใช้ภายในบ้านในตลาดเยอรมนี โดยพบว่า ตลาดสินค้ากลุ่มนี้มีโอกาสเติบโตสูง ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างอาคาร บ้านพัก หลังจากที่รัฐบาลเยอรมนีได้ออกกฎหมายใหม่เพื่ออำนวยความ

"ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2561 เป็นต้นมา กฎหมายก่อสร้างฉบับใหม่ของเยอรมนีได้มีผลบังคับใช้ โดยกฎหมายฉบับนี้มอบสิทธิให้กับเจ้าของอาคาร บ้านพัก มีสิทธิที่จะรับรู้รายละเอียดเกี่ยวกับบ้านพัก ลักษณะการก่อสร้าง ข้อมูลเกี่ยวกับตัวอาคารและบ้าน ทั้งภายในภายนอก จากที่ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมามักจะไม่ยอมให้ข้อมูลที่แน่ชัดกับผู้เป็นเจ้าของ ทำให้การก่อสร้างอาคาร บ้านพัก มีการเติบโตขึ้น เพราะคนมีความมั่นใจว่าการก่อสร้าง จะได้คุณภาพ มาตรฐาน จึงส่งผลให้การก่อสร้างอาคารและบ้านพักเติบโตตามไปด้วย"

สำหรับการขยายตัวของการก่อสร้างอาคารและบ้านพักดังกล่าว เป็นโอกาสสำหรับตลาดสินค้าสิ่งทอที่เป็นของใช้ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ผ้าปูโต๊ะ และพรม เป็นต้น ซึ่งสินค้าไทยในกลุ่มนี้เป็นสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกไปยังเยอรมนีและประเทศต่างๆ ในยุโรปอยู่แล้ว หากมีการเร่งขยายตลาด เพิ่มการประชาสัมพันธ์สินค้าก็จะทำให้ผู้ประกอบการไทย รวมทั้งผู้ผลิตรายย่อยในภูมิภาคมีโอกาสในการส่งออกได้เพิ่มขึ้น

สถิติการส่งออกของไทยไปยังตลาดยุโรปปี 2560 ตลาดหลักได้แก่ อันดับ1.เยอรมนี 2.เนเธอร์แลนด์ 3.สวิตเซอร์แลนด์ 4.สหราชอาณาจักร 5.ฝรั่งเศส โดยมูลค่าการส่งออกของไทยกับเยอรมนี สูงถึง 170,538 ล้านบาท สำหรับตัวเลขการค้า 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) ของปี 2561 ไทยขาดดุลการค้าเยอรมนีถึง 41,512 ล้านบาท โดยส่งออกไปยังเยอรมนี 110,931 ล้านบาท และนำเข้า 152,443 ล้านบาท