ธ.ก.ส. ลงพื้นที่จ.เชียงราย หนุนสร้างอาชีพให้เกษตรกรผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หวังแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 29, 2018 12:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง พร้อมคณะ ได้เยี่ยมชมการดำเนินงานการพัฒนารายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ภายใต้มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอาชีพ เพิ่มรายได้ และการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบของเกษตรกรอย่างยั่งยืน ณ ชุมชนบ้านป่าซางวิวัฒน์ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย

นายสมภพ รอดกลาง ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการแกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า การพัฒนารายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ภายใต้มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการและอยู่ในความรับผิดชอบของ ธ.ก.ส. จำนวน 4,086,035 ราย โดยมีผู้มาสัมภาษณ์เพื่อเข้าร่วมโครงการจำนวน 4,051,454 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ประสงค์พัฒนาตนเองตามโครงการ ด้วยการฝึกอบรมและเสริมทักษะด้านอาชีพจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรมการพัฒนาชุมชน, กระทรวงแรงงาน, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และการให้ความรู้ทางการเงินจาก ธ.ก.ส. จำนวน 2,765,335 ราย และไม่ประสงค์พัฒนาแต่ต้องการดำรงชีวิตพอเพียง จำนวน 1,286,119 ราย

ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาอาชีพเกษตรกรผู้มีบัตรสวัสดิการ ธ.ก.ส. ได้มีการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการด้านการเกษตรในพื้นที่ หรือ SMAEs และองค์กรของเกษตรกร เช่น สหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ ทำหน้าที่เป็นหัวขบวนในการรับซื้อผลผลิต การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นทางเลือกในการสร้างอาชีพและรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อยในทุกจังหวัด โดยปัจจุบันมีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ 172 แห่ง และ SMAEs จำนวน 7,574 ราย

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยแบบครบวงจรผ่าน 3 มาตรการ 9 โครงการ ซึ่งผลการดำเนินงาน ณ ปัจจุบัน ประกอบด้วย มาตรการลดภาระหนี้สิน ได้แก่ 1.โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 657,080 ราย จำนวนเงิน 155,631 ล้านบาท 2.โครงการสินเชื่อแก้ไขหนี้นอกระบบ จำนวน3,022 ราย จำนวนเงิน 247 ล้านบาท 3.โครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน จำนวน 76,383 ราย จำนวนเงิน 3,692 ล้านบาท 4.โครงการชำระดีมีคืน จำนวน 1,235,279 ราย จำนวนเงิน 2,630 ล้านบาท 5.โครงการสินเชื่อกองทุนหมู่บ้าน จำนวน 2,518 ราย วงเงิน 73 ล้านบาท

มาตรการพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ได้แก่ 1. โครงการสินเชื่อชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อพัฒนาอาชีพ (XYZ) จำนวน 252 ล้านบาท 2.โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาอาชีพผู้มีรายได้น้อย จำนวน 41,767 ราย จำนวนเงิน 1,908 ล้านบาท และมาตรการพัฒนาตนเอง ได้แก่ 1.โครงการให้ความรู้ทางการเงิน จำนวน 984,469 ราย 2. โครงการส่งเสริมการออมผ่านกองทุนทวีสุข จำนวน 26,499 ราย จำนวนเงิน 30 ล้านบาท

นายสมภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของจังหวัดเชียงราย เกษตรกรผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 129,851 ราย มาสัมภาษณ์เพื่อเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 129,019 ราย ประสงค์พัฒนาตามโครงการ จำนวน 99,068 ราย และต้องการดำรงชีวิตพอเพียง จำนวน 29,951 ราย

สำหรับชุมชนบ้านป่าซางวิวัฒน์ เกษตรกรมีอาชีพหลักในการทำนา และปลูกสับปะรด ซึ่งมักประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ และปัจจัยการผลิตมีราคาสูง เมื่อได้รับการสนับสนุนจาก ธ.ก.ส และหน่วยงานต่างๆ ชาวบ้านจึงรวมตัวตั้งเป็นกลุ่ม เพื่อประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ โดยดึงจุดเด่นของท้องถิ่น ทั้งด้านทรัพยากรและความรู้อันเกิดจากภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดกันมา เช่น กลุ่มผลิตข้าวปลอดสารพิษ กลุ่มวิสาหกิจแปรรูปสับปะรดและสมุนไพรซางคำ กลุ่มผักปลอดสารพิษ กลุ่มแปรรูปหมู กลุ่มผลิตปูนาและหนูพุก กลุ่มแปรรูปใยสับปะรดเป็นกระดาษสา กลุ่มนวดแบบหมอพื้นบ้านล้านนาโบราณ เป็นต้น จนสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับชุมชนและทำให้สมาชิกซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยมีรายได้เพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ