ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.21 ระหว่างวันผันผวน ก่อนกลับมาอ่อนค่าจากช่วงเช้า เหตุกังวลการเมืองเยอรมนี

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 29, 2018 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.21 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเช้าที่ 33.06 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.05- 33.23 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของเยอรมนี

"วันนี้บาทผันผวนในทิศทางอ่อนค่ามากกว่าสกุลอื่น อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้เงินบาทค่อนข้างมีเสถียรภาพ ระหว่างวัน เงินบาทไปทำ new high ในรอบสองเดือนกว่าๆ นับจากวันที่ 17 ส.ค.61 ที่ระดับ 33.23 (บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินเงินบาทในวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.10-33.25 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 112.16 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.84 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1380 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1390 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,636.88 จุด เพิ่มขึ้น 7.92 จุด, +0.49% มูลค่าการซื้อขาย 37,780.55 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,322.16 ล้านบาท(SET+MAI)
  • ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง
ประจำเดือน ก.ย.61 และไตรมาส 3/61 มีการขยายตัวจากอุปสงค์ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยการบริโภคภาคเอกชนยังคง
ส่งสัญญาณบวกจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งและการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ยังขยายตัวได้ดี

ขณะที่อุปสงค์ภายนอกประเทศที่สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกสินค้ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง สอดคล้องกับด้านอุปทานที่ สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศยังขยายตัวได้ต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนเสถียรภาพภายในและ ภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคง สามารถรองรับความผันผวนจากต่างประเทศได้

  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 61 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ 4.5%
(โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 4.3% – 4.7%) เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.9%

อย่างไรก็ตาม การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลง และนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐรวมถึง การตอบโต้จากประเทศต่างๆ คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าชะลอลงเล็กน้อยเหลือเติบโตได้ที่ 8% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต ได้ 9.7%

  • ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สศค. เปิดเผยถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 62 ทาง สศค.ยังคาดหวังว่าจะเติบโตได้
ถึง 4% เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่จากปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตามยังมีอยู่ ทั้งเรื่องสงคราม
การค้า และความผันผวนของค่าเงิน จึงต้องขอติดตามสถานการณ์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ก่อนจะประเมินอย่างเป็นทางการ
  • ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สศค. เผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกันยายน ปี
2561 และไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ยังคงขยายตัวต่อเนื่องในหลายภูมิภาค นำโดย ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ โดยได้รับ
ปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนรวมถึงการขยายตัวของภาคการท่อง
เที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี
  • กระทรวงการค้าญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่า

ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ