รมว.เกษตรฯ ชี้แจงความจำเป็นต่อผู้ชุมนุมถึงเหตุที่ กฟก.ไม่สามารถซื้อหนี้สินให้ทุกรายได้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 8, 2018 17:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจ (กฟก.) ที่ตนเป็นประธานหมดระยะเวลาลงแล้ว ตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้ปฏิบัติงาน 180 วัน โดยให้แก้ไขหนี้สินเกษตรกรอย่างเร่งด่วน อีกทั้งได้เสนอแนวทางการปรับปรุงการบริหารงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) จากที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบการทำงานของ กฟก.ในปี 2542-2556 แล้วพบความไม่เหมาะสมหลายประการ โดยเฉพาะในกรณีการไปซื้อหนี้เกษตรกรนอกเกณฑ์ที่ไม่ตรงเงื่อนไขระเบียบของ กฟก. ที่กำหนดว่าเป็นหนี้เกิดการจากภาคเกษตร มูลหนี้ไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อราย รวมทั้งต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้ด้วย

"การทำงานของ กฟก.ชุดเฉพาะกิจที่ผ่านมานั้น ได้เร่งทบทวนจำนวนเกษตรกรสมาชิกของ กฟก. พบว่ามีกว่า 6.7 ล้านราย แต่ที่ประสงค์ให้ กฟก.แก้ไขปัญหาหนี้สินให้กว่า 4.5 แสนราย มูลหนี้กว่า 8 หมื่นล้านบาท ได้พิจารณาหลักเกณฑ์ระเบียบที่ กฟก.สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ 5.5 หมื่นราย ซึ่งมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 ต.ค. มีมติพิจารณาแก้ปัญหาหนี้สิน ลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) 3.6 หมื่นราย ทั้งนี้ ยังมีเกษตรกร อีก 4.2 พันราย ที่อยู่ในระหว่างถูกเจ้าหนี้ฟ้องศาลและอยู่ระหว่างการบังคับคดี ทาง กฟก.เฉพาะกิจได้ประสานงานกับเจ้าหนี้ให้ชะลอการฟ้องร้องและประสานกรมบังคับคดี ให้ชะลอการบังคับคดีออกไป ซึ่งเจ้าหนี้บางรายยินยอมชะลอให้ได้ 100 กว่าราย อีก 4 พันกว่าราย เป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย" นายกฤษฏา กล่าว

สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่มาชุมนุมเรียกร้องหน้ากระทรวงเกษตรฯ ต้องการให้ กฟก.ดำเนินการช่วยเหลือซื้อหนี้ โดยให้ปฏิบัติตามมติครม.ปี 2553 ซึ่งจะให้กระทรวงเกษตรฯ เจรจากับธนาคารและสหกรณ์ที่เป็นเจ้าหนี้ให้ตัดเงินต้น 50% พร้อมดอกเบี้ยทิ้ง ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งให้ กฟก.ซื้อหนี้มา ซึ่งเกษตรกรจะผ่อนชำระกับ กฟก. แต่ด้วยระเบียบการเงินการคลัง ซึ่งดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกอบกับข้อเสนอแนะจาก สตง.ระบุว่าทาง กฟก.ไม่สามารถเข้าไปซื้อหนี้นอกเกณฑ์ได้ รวมถึงได้สรุปผลการตรวจสอบการปฏิบัติตามมติครม. ปี 2553 แล้วว่า มีกรณีที่ทำไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงขอให้เกษตรกรเข้าใจถึงเหตุผลที่กระทรวงเกษตรฯ ในฐานะคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ เฉพาะกิจ จึงไม่สามารถแก้ไขโดยการซื้อหนี้สินตามข้อเรียกร้องของเกษตรกรบางกลุ่มได้

"ทางกระทรวงเกษตรฯ เห็นใจพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง ต้องการจะช่วยเหลือในแนวทางที่ทำได้ โดยเป็นคนกลางในการเจรจาให้เจ้าหนี้กับลูกหนี้มาพบกันเพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นรายๆ ไป ทั้งนี้ เกษตรกรกรที่เป็นหนี้ ต้องไปแสดงตนกับธนาคารและสหกรณ์เจ้าหนี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเจรจา โดยเจ้าหนี้ทั้งหมดได้ยืนยันมาว่าจะไม่เอาเปรียบเกษตรกรอย่างแน่นอน มีระเบียบในการยุติหนี้ในบางกรณีได้แก่ ชราภาพ ผู้พิการ ผู้ป่วยที่ประกอบอาชีพไม่ได้ ผู้เสียชีวิตไปแล้ว ญาติต้องไปแจ้งทางเจ้าหนี้ ซึ่งมีระเบียบยกหนี้ให้เลย หากเข้ากระบวนการเจรจาเล้ว รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมให้มาประสานกับกฟก.อีกครั้ง" นายกฤษฎาระบุ

สำหรับคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจที่ รมว.เกษตรฯ เป็นประธานสิ้นสุดวาระแล้ววันนี้ ดังนั้นอำนาจหน้าที่การจัดการหนี้สินเกษตรกรจะกลับไปเป็นของ กฟก. ดังเดิม ซึ่งจะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการ กฟก. ขึ้นมาใหม่ เกษตรกรเป็นสมาชิกมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง โดยสรุปผลการดำเนินงานของ กฟก.เฉพาะกิจ รายงานให้ครม. รับทราบแล้ว

ส่วนเครือข่ายหนี้สินเกษตรกรภาคกลางราว 150 คน ยังคงชุมนุมอยู่หน้ากระทรวงเกษตรฯ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ กฟก.ได้ไปชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องเงื่อนไขแก้หนี้ของ กฟก.แล้ว อีกทั้งยังมีสหพันธ์เครือข่ายเกษตรกรแห่งประเทศไทย ที่ระบุว่ากลุ่มเกษตรกรจะเดินทางมาชุมนุมในกรุงเทพมหานคร เพื่อเรียกร้องให้ กฟก.เข้าซื้อหนี้เกษตรกรไปบริหารเองภายใน 15 พฤศจิกายนนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ