นางจิตต์วิภา ศักดิ์พิทักษ์สกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโอซากา เปิดเผยว่า นิตยสาร Waiwai Thailand ได้ทำการสำรวจข้อมูลร้านอาหารเอเชียที่เปิดบริการใหม่ในญี่ปุ่นปี 2561 พบว่าร้านอาหารไทยเปิดให้บริการมากที่สุดถึง 85 ร้าน โดยเปิดสาขาในโตเกียว 43 ร้าน ปริมณฑล 13 ร้าน และในเขตคันไซ คือ โอซากา เกียวโต และเฮียวโก 10 ร้าน ที่เหลือเปิดในที่อื่นๆ ในญี่ปุ่น ส่วนร้านอาหารที่เปิดรองลงมา คือ ร้านอาหารเนปาล 50 ร้าน ร้านอาหารเวียดนาม 48 ร้าน ที่เหลือเป็นร้านอาหารสิงคโปร์ อินโดนีเซียและเมียนมา
สาเหตุที่อาหารไทยได้รับความนิยมในตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น เพราะไทยได้รับเลือกให้เป็นประเทศที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดติดอันดับ 1 ใน 10 ทุกปี ทำให้ชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารไทย รู้จักอาหารไทย และเมื่อกลับไปญี่ปุ่นแล้วก็ยังต้องการบริโภคอาหารไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร้านอาหารไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สำหรับเมนูอาหารไทยยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่นตอนนี้ก็คือ ข้าวราดกะเพราไข่ดาว ได้ถูกนำมาเป็นเมนูประจำร้านคาเฟ่ และอาหารกล่องสำเร็จรูปในเซเว่นอีเลฟเว่น และยังมีผักชีที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ และมีการคิดเมนูที่ตอบสนองความต้องการ เช่น สลัดผักชีที่ราดด้วยน้ำสลัดผักชี Hot-pot ผักชี หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มผักชีโซดา ที่นำผักชีสดๆ หั่นใส่ในแก้วแล้วเทโซดาที่มีความหวานลงไป ซึ่งเป็นเมนูที่ไม่มีในไทย
ส่วนเมนูร้านอาหารเวียดนามที่ได้เริ่มกลับมานิยมคือ เฝอ และกาแฟเวียดนาม รวมถึงบั๋นหมี่ หรือแซนด์วิชเวียดนาม ส่วนปอเปี๊ยะสด ที่เคยเป็นอาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม ปัจจุบันได้กลายมาเป็นเมนูดังในร้านอาหารไทย เนื่องจากร้านอาหารไทยได้นำปอเปี๊ยะสดมาปรับปรุงรสชาติและวิธีการรับประทานให้คนญี่ปุ่นทานง่าย ทำให้กลายมาเป็นเมนูยอดฮิตในร้านอาหารไทยด้วย
นางจิตต์วิภา กล่าวว่า ผลจากจำนวนร้านอาหารไทยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นได้ส่งผลดีต่อการส่งออกข้าว เครื่องปรุงรสของไทย และวัตถุดิบอาหารไทย รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งร้านแบบไทยๆ เพื่อนำไปตกแต่งร้าน จึงเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยที่จะส่งออกเข้าไปป้อนความต้องการ
ล่าสุดในญี่ปุ่นยังได้มีการเปิดร้านข้าวราดแกง และมีรายการโทรทัศน์ทั้งไทยและในญี่ปุ่นได้เข้าไปทำรายการ โดยรูปลักษณ์ร้านค้าเหมือนร้านข้าวแกงในไทย มีการใช้อุปกรณ์จาน ชาม หม้อ แบบไทย และมีรสชาติดั้งเดิม ทำให้มีชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชายไทยเข้าไปใช้บริการเป็นอย่างมากจนต้องเข้าแถวรอก็ยิ่งช่วยกระตุ้นความต้องการบริโภคอาหารไทยได้เพิ่มขึ้น