นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการตามสถานีขนส่งต่างๆ รวมถึงสถานีรถไฟ สนามบิน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่
ทั้งนี้ หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย ต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์จำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ด้วย เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบเช่นกัน
"กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการดูแลราคาสินค้า และบริการ และรักษาความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่อย่างเข้มงวด โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิด ทั้งสถานีขนส่ง สถานที่ท่องเที่ยว และร้านค้าทั่วไป เนื่องจากช่วงปลายปีเป็นช่วงใกล้ถึงเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีประชาชนเลือกซื้อกระเช้าของขวัญ ชุดของขวัญปีใหม่เป็นจำนวนมาก" รมว.พาณิชย์กล่าว
พร้อมระบุว่าได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านจำหน่ายสินค้าให้ปิดป้ายแสดงราคากระเช้าของขวัญหรือชุดของขวัญ พร้อมแสดงรายการสินค้า, ขนาดน้ำหนักต่อหน่วย, ปริมาณการบรรจุ และราคาสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุในกระเช้า รวมทั้งค่ากระเช้าหรือภาชนะที่บรรจุ ค่าวัสดุตกแต่งให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อได้
"กรณีที่สินค้ามีหลายรายการ ไม่สามารถปิดป้ายแสดงราคา และรายการสินค้าไว้ที่กระเช้า หรือชุดของขวัญ ให้จัดทำบัญชีแสดงรายการสินค้าพร้อมราคาสินค้าในกระเช้าหรือชุดของขวัญแต่ละรายการติดไว้ที่กระเช้า หรือวางไว้บริเวณใกล้เคียง และต้องแสดงรายการและราคาสินค้าด้วยขนาดตัวอักษรและตัวเลข ตั้งแต่ขนาด 16 ขึ้นไป หรือมีขนาดเทียบเท่า รวมถึงกำชับไม่ให้นำสินค้าก่อนหมดอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเสื่อมคุณภาพมาจัดลงในกระเช้าหรือชุดของขวัญด้วย" รมว.พาณิชย์ ระบุ