พาณิชย์ จับมือ 6 พันธมิตรด้านไอที-ธนาคาร ช่วยบริหารจัดการธุรกิจ SME แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด"Total Solution for SMEs"

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 21, 2018 13:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า จากการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีแนวคิดที่จะช่วยเหลือ Pain Point ของธุรกิจ SMEs โดยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็นในการทำธุรกิจแบบครบวงจร ตอบโจทย์เศรษฐกิจในยุค Thailand 4.0 โครงการ Total Solution for SMEs จะทำหน้าที่อำนวยความสะดวก (Facilitator) โดยรวบรวมโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการธุรกิจสำหรับ SMEs ทั้ง 3 ส่วนไว้ด้วยกัน ได้แก่ 1) โปรแกรมสำนักงาน (Office) 2) โปรแกรมหน้าร้าน (POS:Point Of Sale) และ 3) โปรแกรมบัญชี Online (Cloud Accounting) โดยทั้ง 3 โปรแกรมสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทั้งระบบแบบครบวงจร ตั้งแต่การซื้อขายสินค้า/บริการ เชื่อมโยงข้อมูลไปจัดทำบัญชี และงบการเงิน เพื่อตอบโจทย์การประกอบธุรกิจของ SMEs ในยุคดิจิทัลที่ต้องสะดวกรวดเร็ว และยังได้ข้อมูลในการบริหารจัดการธุรกิจที่ถูกต้องครบถ้วน และทันเวลา รวมทั้ง จัดให้มีการจับคู่ระหว่างธุรกิจ SMEs กับโปรแกรมที่เหมาะสม (Business Matching)

นอกจากจะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับ SMEs ไทยแล้ว ยังเป็นการส่งเสริม Startup และผู้พัฒนา Software ของไทยไปด้วยกัน ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดด้านเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจและ Startup ของประเทศไทยในอนาคต รวมทั้ง กรมฯ ยังได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินในการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ SMEs และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโครงการฯ อาทิ การให้บริการด้านสินเชื่อในอัตราพิเศษ การให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ หรือการให้บริการต่างๆ ของธนาคารผ่านทางด่วนพิเศษ เป็นต้น

โดยวันนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อม 6 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) สมาคม Thailand Tech Startup ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์สำนักงาน (Office) ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทหารไทย ได้นำระบบซอฟต์แวร์การบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจร Total Solution for SMEs เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถนำนวัตกรรมมาขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในยุคที่ธุรกิจขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี

"Total Solution for SMEs เปรียบเสมือนอาวุธสำคัญที่ช่วยให้ SMEs สามารถใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจร ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการหาเครื่องมือที่เหมาะกับธุรกิจ รวมถึงมีฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของธุรกิจ สามารถนำมาใช้วางแผนบริหารจัดการและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ดังนั้นหากภาครัฐมองเห็นภาพเศรษฐกิจที่แท้จริงและชัดเจนจะทำให้สามารถช่วยเหลือกับผู้ประกอบการได้ตรงจุดและตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการเพื่อผลักดันให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืนบนโลกของธุรกิจที่แข่งขันกันด้วยเทคโนโลยีสื่อสารออนไลน์" นายวุฒิไกร กล่าว

น.ส.ยุวดี แซ่โก่ย เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) กล่าวว่า สมาคมฯ ก่อตั้งมากว่า 20 ปี มีสมาชิกนักพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อธุรกิจหลักร้อยรายที่มีประสบการณ์ตรงและเข้าใจวัฒนธรรมธุรกิจของผู้ประกอบการไทย ซึ่งมีชุมชนสมาชิกที่ใช้งานระบบอยู่กว่าสองแสนราย มีความมุ่งมั่นในทิศทางการก้าวสู่การเป็นหนึ่งใน Change Agent ในการร่วมสร้าง Ecosystems และ Transform ธุรกิจของคนไทยไปสู่ยุคดิจิทัล 4.0 ได้อย่างเห็นผลได้จริง ซึ่งสมาคมฯ ได้กำหนดกลยุทธ์สำคัญด้าน People Transformation และขับเคลื่อน Digital Workforce ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ

นายพณชิต กิตติปัญญางาม นายกสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ (TTSA) กล่าวว่า ผู้ประกอบการไทยหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มจดทะเบียนใหม่มักจะมีปัญหาเรื่องการจัดการระบบบริหารเอกสารทางการเงินและระบบบัญชีให้ถูกต้องสอดคล้องกับธุรกิจตน ผู้ประกอบการหลายคนต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาไม่น้อยกว่าจะพบเจอเครื่องมือที่ใช่และเหมาะกับธุรกิจของตนเอง ความร่วมมือครั้งนี้นอกจากจะช่วยผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการหาเครื่องมือที่เหมาะกับตนเองแล้วยังเป็นการช่วยพาผู้ประกอบการเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของเศรษฐกิจดิจิทัลที่เต็มไปด้วยโอกาสใหม่ๆ ด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า Startup ขณะที่ Startup จะได้รับโอกาสในการได้เข้าถึงผู้ประกอบการที่ใช่ และเหมาะสมกับสินค้าและบริการของตนเองเช่นกัน

นายพงศ์พรหม ยามะรัต Co-founder บริษัท ดาต้า คุ้กกี้ จำกัด กล่าวว่า โครงการ Office Software Jump Start for SMEs คือ โครงการที่ภาครัฐสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้โตอย่างก้าวกระโดดในยุค 4.0 ที่เรียกว่ายุคเงินเปลี่ยนทิศ เข้าสู่โลกดิจิทัลภายใต้คอนเซ็ปต์ SMEs Transformation, Optimize Data Security, Cost, Compatibility and Super Features โดยจะสนับสนุนโปรแกรมซอฟต์แวร์จัดการเอกสารที่เรียกว่า Office Software "Jump Start" for SMEs โดยการนำ Libre Office เวอร์ชั่นล่าสุดปี 2018 มาพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้งานของ SMEs ไทยซึ่งจะสามารถช่วยจัดการงานทางด้านเอกสารต่างๆ ให้ผู้ประกอบการได้อย่างง่ายดาย จุดเด่นของโปรแกรมนี้ คือ 1) Compatibility กับไฟล์เอกสารเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิเช่น .docx, .xlsx, pptx, etc. 2) มี Features พิเศษที่หาไม่ได้จากโปรแกรมออฟฟิศซอฟต์แวร์ที่อื่น ซึ่ง Feature ต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ SMEs สามารถทำงานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วอย่างก้าวกระโดด เช่น Fonts, Template การใช้งานบัญชีอย่างถูกต้อง, Template งานสารบรรณภาครัฐ ฯลฯ ทั้งนี้ โครงการที่จัดทำขึ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการสนับสนุนซอฟต์แวร์ที่ SMEs ต้องใช้งานในทุกๆ วัน ซึ่งจะมีการทยอยนำมาพัฒนาและสนับสนุน SMEs อย่างต่อเนื่องในเวลาต่อไป

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันผู้ประกอบการ SMEs ต้องเผชิญกับ Digital Disruption จึงต้องปรับตัว ซึ่งการนำเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการธุรกิจรวมถึงจัดการข้อมูล จะทำให้การบริหารธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้นและแข่งขันได้ สำหรับโครงการนี้ธนาคารมีสินเชื่อพิเศษสำหรับ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ เป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานถึง 6 เดือน และสินเชื่อ SMEs บัญชีเดียว สำหรับ SMEs ที่มีการทำบัญชีเดียว ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมวงเงินเพิ่มเติมอีก 10% ของวงเงินสินเชื่อเพื่อใช้หมุนเวียน นอกจากนี้ ธนาคารยังมีบริการเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการรับจ่ายเงิน เช่น บริการเครื่องรูดบัตร บริการชำระค่าสินค้าผ่านการหักบัญชีอัตโนมัติ และ K-Cash Connect Plus ด้วยค่าธรรมเนียมอัตราพิเศษ ซึ่งธนาคารคาดหวังว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจ SME ให้เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน

น.ส.จันทร์เพ็ญ วิชชิจันทกรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย SME Ecosystem and Business Solution ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ยินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนให้เอสเอ็มอีไทยได้เติบโตอย่างเท่าทันยุคดิจิทัล โดยได้เตรียมผลิตภัณฑ์และบริการครบวงจรไว้ให้แก่เอสเอ็มอีที่ร่วมโครงการ อาทิ Clean Loan สินเชื่อเพื่อธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ โดยไม่ต้องมีหลักประกัน ให้วงเงินสูงสุดถึง 2 ล้านบาท บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตเพื่อธุรกิจ SCB Business Anywhere ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนการจัดการทางการเงินด้วยการโอนฟรีทุกรายการ และยังมีทีมที่ปรึกษาในการทำธุรกิจทางด้านต่างๆ อาทิ การตลาด ไปจนถึงการขยายกิจการ หรือการเพิ่มแฟรนไชส์ ซึ่งลูกค้าสามารถนัดเข้าพบได้ที่ SCB Business Center รวมถึงการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับเทรนด์ธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพเอสเอ็มอีตลอดปีอีกด้วย

นายรุจิกร ภาวสุทธิไพศิฐ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารการตลาดลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีเอ็มบี มีนโยบายสำคัญช่วยสนับสนุนการเติบโตของเอสเอ็มอี ภายใต้แนวคิด Get MORE with TMB เพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถเติบโต "ได้มากกว่า" โดยทางทีเอ็มบี พร้อมสนับสนุนเอสเอ็มอีทั้งในด้านแหล่งเงินทุน การทำธุรกรรมการเงิน รวมทั้งการให้คำปรึกษาและความรู้ เพื่อให้เอสเอ็มอีต้องได้มาก ดังนั้นความร่วมมือในโครงการบริหารธุรกิจแบบครบวงจร เพื่อเอสเอ็มอีในครั้งนี้ จะเป็น "ตัวช่วย" ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้กับเอสเอ็มอีได้อย่างแท้จริง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ