กทท.ให้สิทธิเหนือพื้นดินทางรถไฟสายแยกโรงกลั่นฯกับ รฟท.พร้อมลงทุน 100 ลบ.ให้ PTTEP ใช้ขนส่งน้ำมันดิบ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 24, 2018 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ร่วมกับ กรรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามสัญญาใช้สิทธิเหนือพื้นดินทางรถไฟสายแยกโรงกลั่นน้ำมันบางจาก สนับสนุนการขนส่งทางระบบรางสู่การขนส่งทางน้ำ

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการผู้ว่าการ รฟท.เปิดเผยว่า การลงนามสัญญาครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ที่ผ่านมาทางรถไฟสายแยกเข้าโรงกลั่นน้ำมันบางจากซึ่งอยู่ภายในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ ของ กทท.มีสภาพชำรุดทรุดโทรมจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่การขนส่งทางรถไฟ จนต้องมีการประกาศงดใช้เส้นทางดังกล่าว

ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งทางถนนมาสู่ภาคการขนส่งทางราง และทางน้ำ อันจะส่งผลต่อการประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนการขนส่งสินค้าในประเทศตามนโยบายของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม รฟท.จึงได้ร่วมลงนามสัญญาดังกล่าว เพื่อเร่งเข้าไปปรับปรุงทางรถไฟให้สามารถกลับมาเปิดให้บริการเดินรถขนส่งสินค้าได้เป็นปกติอีกครั้ง

ทั้งนี้ ภายในรายละเอียดสัญญา กทท.ได้ตกลงให้ รฟท. มีสิทธิเหนือพื้นดิน ณ ท่าเรือกรุงเทพ จำนวนเนื้อที่ 5,912.29 ตารางวา บริเวณทางรถไฟสายแยกเข้าโรงกลั่นน้ำมันบางจากเพื่อใช้ประโยชน์ในการเดินรถ การปฏิบัติการเดินรถ และการขนส่งสินค้าทางรถไฟ โดย รฟท.จะเข้าไปทำการรื้อถอนทางรถไฟสายแยกเข้าโรงกลั่นน้ำมันบางจากที่มีอยู่เดิม และทำการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ตามแนวเส้นทางเดิม รวมถึงทำการก่อสร้างระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการเดินรถ การปฏิบัติการเดินรถ และการขนส่งสินค้าทางรถไฟ เป็นระยะทางทั้งสิ้น 6,410.80 เมตร (ทางสายหลักตั้งแต่ กม. 0+000 ถึง กม. 6+410.80 ทางหลีกและทางแยกต่าง ๆ ความยาวรวม 340 เมตร)

นอกจากนี้ รฟท.ยังได้รับการยกเว้นเรียกเก็บค่าใช้ประโยชน์ที่ดินหรือค่าใช้จ่ายจากการท่าเรือฯ มีกำหนดระยะเวลา 10 ปี นับถัดจากวันลงนามในสัญญาอีกด้วย และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว การท่าเรือแห่งประเทศไทยยังตกลงให้ รฟท.ใช้สิทธิเหนือพื้นดินต่อไปอีกคราวละ 5 ปี โดย รฟท.ต้องแสดงเจตนาขอใช้สิทธิเหนือพื้นดินเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทราบล่วงหน้าก่อนที่อายุสัญญาจะสิ้นสุดลงไม่น้อยกว่า 6 เดือน อย่างไรก็ดี กทท.ยังมีสิทธิเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสินค้าผ่านทางจากผู้ที่มาใช้บริการขนส่งทางรถไฟได้เป็นปกติ

"รฟท.คาดหวังว่าการเข้าไปปรับปรุงทางรถไฟสายแยกเข้าโรงกลั่นน้ำมันบางจากในครั้งนี้ จะสามารถช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ขนส่งให้กับประเทศ และลดปัญหาการจราจรแออัดบนท้องถนน รวมถึงเพิ่มปริมาณผู้ใช้บริการขนส่งสินค้า ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำมันดิบผ่านทางระบบขนส่งทางรางยิ่งขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์จากการขนส่งนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ในระยะยาว"

นายวราวุฒิ กล่าวว่า รฟท.จะใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาปรับปรุงทางรถไฟประมาณ 6 -8 เดือน โดยจะเก็บค่าระวางกับ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ที่จะใช้ขนส่งน้ำมันดิบจากกำแพงเพชร เข้าสู่โรงกลั่น ทั้งนี้ เส้นทางรถไฟดังกล่าวได้ปิดไม่ได้ใช้งานมานาน 1 ปี เพราะทรุดโทรมมาก ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวว่า เส้นทางนี้ PTTEP จะได้รับประโยชน์ในการขนส่งน้ำมันดิบ แทนที่จะขนส่งทางถนนหรือทางด่วนซึ่งมีรถแน่นบนท้องถนน ถ้าหากการดำเนินการดังกล่าวเสร็จ ให้ PTTEP ไปศึกษาเส้นทางนี้ขยายไปเป็นรถไฟรับส่งผู้โดยสารไปรถไฟมักกะสัน หรือรถไฟในใจกลางเมือง เป็นรถไฟท้องถิ่น ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรในย่านถนนพระราม 4 ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ