(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 31.94 อ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ หลังมีแรงซื้อคืนดอลลาร์กลับเข้ามา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 14, 2019 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.94 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.92 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงซื้อคืนดอลลาร์กลับมาในช่วงสั้นๆ แต่ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ เข้ามา

"บาทอ่อนค่าจากช่วงท้ายตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์เล็กน้อย หลังมีแรงซื้อคืนดอลลาร์กลับเข้ามาในช่วงสั้นๆ" นักบริหาร
เงิน กล่าว

ตลาดจับตาความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐต้องปิดทำการชั่วคราว เนื่องจากขาดงบประมาณ หรือ ชัตดาวน์นั้นที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 23 แล้ว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.85-32.00 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 6M (11 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.76484%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.9650 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 108.42 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 108.31 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1467 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1522 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.9150 บาท/
ดอลลาร์
  • รมว.คลัง ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 62 จะขยายตัวได้ 4% ในขณะที่ปี 61 ขยายตัวได้ 4.1-4.2% ซึ่งถือว่าเติบโต
เต็มศักยภาพในระดับ 4-5% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าการบริหารเศรษฐกิจของประเทศไว้ตั้งแต่เข้ามาทำงานในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำ
ให้ไทยสามารถรองรับกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดี พร้อมระบุว่า กระทรวงการคลังมีแผนบริหารเศรษฐกิจระยะปานกลาง
ที่ตั้งเป้าว่าจะต้องทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างน้อยปีละ 4% เพื่อให้ประเทศไทยพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางให้เร็วขึ้น
  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 3.49% แตะ
ระดับ 6.7560 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์เงินบาทช่วง 14-18 ม.ค.จะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-32.20 บาท/ดอลลาร์
โดยตลาดรอติดตามผลการโหวตร่างข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปของรัฐสภาอังกฤษ รวมถึงสถานการณ์
ชัตดาวน์ และสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (11
ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อดอลลาร์ หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่ง
สัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (11 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขาย
เพื่อทำกำไร หลังราคาสัญญาน้ำมันปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 9 วัน ทำสถิติปิดในแดนบวกยาวนานที่สุดในรอบ 9 ปี มาก่อนหน้านี้ โดยสัญญา
น้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 51.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ
เดือนมี.ค. ลดลง 1.2 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาถึง 21 วันแล้วในขณะนี้ ประกอบกับแรงฉุดจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะเมื่อดอลลาร์แข็งค่า ราคาสัญญาน้ำมันดิบที่ซื้อ ขายด้วยเงินดอลลาร์จะมีราคาสูงขึ้นและน่าดึงดูดใจลดลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น ๆ

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (11 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่ง
ทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.
พ. เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,289.50 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่

ระดับ 12,060 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,538.27 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด

1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.84 ดอลลาร์ฮ่องกง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ