ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.46 แข็งค่าต่อเนื่อง รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น มองกรอบวันนี้ 31.45-31.55

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 30, 2019 09:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.53 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีกระแสเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าต่อเนื่อง

"บาทแข็งค่าต่อเนื่องจากเย็นวานนี้หลังมี flow ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดทุนต่อเนื่องเป็นวันที่สี่" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยที่นักลงทุนจับตาดูเป็นผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) คืนนี้ว่าจะส่งสัญญาณ อย่างไรบ้าง

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.45-31.55 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 6M (29 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.74735%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 109.40 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.42 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1432 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1442 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.5690 บาท/ดอลลาร์
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดแบงก์ตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ถึงกลางปี 2562 สภาพคล่องยังล้น คาดปีนี้สินเชื่อโตแค่ 5%
  • สคร.ชงโมเดลควบรวมกิจการ TMB-ธนชาต (TBANK) ให้รัฐมนตรีคลังพิจารณาสัปดาห์หน้า ระบุชัดรัฐต้องได้ประโยชน์
มากกว่าเดิม ด้านธนชาตเร่งปิดดีล ห่วงดีลล่มหากเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่
  • เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.)
รัฐสภาอังกฤษทำการลงมติต่อร่างแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่มีการเสนอมาจากสมาชิก
รัฐสภาเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลา
สหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ที่
ปลอดภัย ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และ
ความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
  • รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเข้าเจรจากับผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) พร้อมด้วยรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ในวันที่ 30-31 ม.
ค. โดยทั้งสองฝ่ายคาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนเส้นตายวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งหากจีนและสหรัฐไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับแนว
ทางแก้ไขปัญหาที่ถาวร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่
ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
  • นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคง
อัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่าเฟดจะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการยุติการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุล
ของเฟด
  • นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP,
ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้าง
งานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. จาก
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ