ไทย-ฮ่องกง จับมือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ เซ็น MOU ความร่วมมือพัฒนา Start Up และจัดตั้ง Smart City

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 28, 2019 15:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ภายหลังความสำเร็จจากการเยือนเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อเมษายน 2560 และมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจและการค้าการลงทุนระหว่างไทยและฮ่องกง โดยรัฐบาลให้การต้อนรับนางแครี่ หล่ำ (Carrie Lam) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง พร้อมด้วยคณะภาครัฐและเอกชนที่เดินทางมาไทยในระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2562 และได้ใช้โอกาสนี้ในการเปิดสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง หรือ Hong Kong Economic and Trade Office (HKETO) ที่กรุงเทพฯ

ซึ่งสะท้อนว่าฮ่องกงได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของไทย ในการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน จึงได้ให้ความสำคัญในการเข้ามาเปิดสำนักงาน HKETO ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในด้านการค้าและการลงทุน ในสายตาของผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ และจะส่งผลดีต่อการขยายการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจอื่นๆ ตามมา และหลังจากการเยือนในครั้งนี้ ทางฝ่ายฮ่องกงจะได้มีการจัดคณะผู้แทนการค้าจากภาครัฐและเอกชน เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2562 ตามลำดับ

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยยังได้ใช้โอกาสนี้ในการหารือกับฮ่องกง เพื่อขยายความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยฮ่องกงจะมองไทยในฐานะ Gateway เข้าสู่อาเซียน และไทยจะใช้ฮ่องกงเป็นประตูเจาะเข้าสู่ตลาดจีน ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (ASEAN - Hong Kong Free Trade Agreement: AHKFTA) และความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างอาเซียน-ฮ่องกง (ASEAN - Hong Kong Investment Agreement: AHKIA) ซึ่งเริ่มเจรจามาตั้งแต่ปี 2557 กำลังจะมีผลบังคับใช้ในกลางปี 2562

รวมทั้งการใช้ประโยชน์จาก Greater Bay Area หรือ GBA ที่เป็นเขตเศรษฐกิจเชื่อมฮ่องกง มาเก๊า และเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงในมณฑลกวางตุ้งรวม 11 เมืองที่เชื่อมฮ่องกงในฐานะ Super Connector กับเส้นทางสายไหม (Belt & Road Initiative : BRI) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ด้านโครงสร้างพื้นฐานของจีน และสามารถเชื่อมโยงด้านการค้าการลงทุนเข้ากับเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของไทย ซึ่งรัฐบาลไทยมุ่งหวังให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน ดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ หรือ S-Curve ทั้งจากไทยและต่างประเทศ เพื่อรองรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจสู่การเน้นวิทยาการและนวัตกรรมและนำพาประเทศไทยไปสู่ยุค 4.0 โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงและธุรกิจบริการ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างเอเชียตะวันออก – อาเซียน – เอเชียใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงและเป็นที่สนใจของนานาประเทศ รวมถึงเพื่อรองรับการขยายตัวทางการค้าทั้งแบบดั้งเดิมและการค้าขายออนไลน์ (E-Commerce) ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย

"ในปี 2562 ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน และได้ประกาศแนวคิดหลัก คือ Advancing Partnership for Sustainability หรือ "ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" ซึ่งบ่งบอกถึงทิศทางการขับเคลื่อนอาเซียนที่ในด้านความยั่งยืน ความเชื่อมโยง และการมองไปสู่อนาคต บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันทั้งภาคีภายนอกภูมิภาคและประชาคมโลก ฮ่องกงจึงถือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่สำคัญของทั้งภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย" นายสมคิด กล่าว

ด้าน น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดกิจกรรมคู่ขนานการสร้างความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจไทย – ฮ่องกง (Thai – Hong Kong Strategic Partnership) ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว โดยได้รับเกียรติจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (นางแครี่ หล่ำ) กล่าวปาฐกถาพิเศษ

ก่อนมีการลงนาม MOU ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย จำนวน 4 ฉบับ ประกอบด้วย ความร่วมมือด้านการพัฒนา Start Up และการจัดตั้ง Smart City ซึ่งเป็นผลมาจากการขับเคลื่อนและประสานงานของกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ 1) Innospace (Thailand) กับ HKTDC 2) Innospace (Thailand) กับ Hong Kong Cyberport 3) Innospace (Thailand) กับ Ho & Partners Architects Engineers & Development Consultants Limited (HPA) และฉบับที่ 4 เป็นการลงนามระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กับ HKTDC เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสด้านการลงทุน และการจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ ภายหลังการลงนาม MOU จะมีการจัดเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนา Start Up และขยายลู่ทางการค้า การลงทุน โดยผู้บริหารชั้นนำจากหน่วยงานของฮ่องกง ได้แก่ Hong Kong Productivity Council, Hong Kong Cyberport และ HPA รวมทั้งการเสวนาเรื่องโอกาสการค้า การลงทุนของไทยในฮ่องกง โดยอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานสัมมนาประมาณ 1,000 คน

ฮ่องกง ถือเป็นคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียน โดยในปี 2561 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันถึง 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 11% ฮ่องกงถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 9 และเป็นนักลงทุนอันดับที่ 5 ของไทย และคาดว่ามูลค่าการส่งออกไทย-ฮ่องกงในปี 2561 จำนวน 12,563 ล้านเหรียญสหรัฐ จะสามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 12% ในปี 2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ