นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.80 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเช้าที่ระดับ 31.87/90 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์ของผู้ส่งออก หลังเงินบาทอ่อนค่าไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ระดับ 31.92 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-31.92 บาท/ดอลลาร์
"บาทกลับมาแข็งค่าเนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์จากผู้ส่งออก ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม" นักบริหารเงิน
กล่าว
ปัจจัยต่างประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ การประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ก.พ.ของสหรัฐ, ดัชนี ภาคบริการเดือน ก.พ.และยอดขายบ้านใหม่เดือน ธ.ค.ของอียู, ยอดค้าปลีกเดือน ม.ค.ของจีน
นักบริหารเงิน คาดวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.75-31.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 111.98 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.85/90 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1330 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1333/3335 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,639.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.70 จุด, +0.23% มูลค่าการซื้อขาย 41,234.20 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,731.00 ล้านบาท (SET+MAI)
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินเงินบาทอาจยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างผันผวนต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาจากการที่ยังคง
มีอีกหลายตัวแปร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งรออยู่ในระยะข้างหน้า
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ยังคงคาดการณ์การส่งออกปี 62 โต 5%
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง
สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ในกรอบวงเงิน 6,645.03 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมจะ
กำหนดระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี แต่กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะสามารถเปิดให้บริการในปี 65
- รมช.พาณิชย์ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) สมัยพิเศษ โดยรัฐมนตรี
RCEP ทั้ง 16 ประเทศต่างยืนยันความตั้งใจของผู้นำ RCEP ที่จะสรุปผลการเจรจาทั้งหมดให้ได้ในปีนี้
- ประธานคณะกรรมาธิการกำกับดูแลภาคธนาคารและประกันของจีน เปิดเผยว่า จีนและสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับ
การเปิดกว้างภาคการเงินได้อย่างแน่นอน แม้ว่ารัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีนจะออกมายอมรับการว่าการเจรจากับสหรัฐเป็นเรื่องยาก
- ธนาคารยูบีเอส (UBS) ของสวิตเซอร์แลนด์ คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน อาจขยายตัวระดับ
ปานกลางในเดือนก.พ.
- รัฐบาลจีน ได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ 6-6.5% สำหรับปี 2562
- ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐกล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่าวุฒิสภจะลงมติผ่านร่างกฏหมายที่จะสกัดกั้นความพยายามของ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อหางบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐกับ
เม็กซิโก แม้ไม่มีแนวโน้มว่า สภาคองเกรสจะสามารถล้มล้างการใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้ของประธานาธิบดีที่อาจจะมีขึ้นก็ตาม