นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวภายหลังมอบนโยบายให้กับผู้บริหารการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ว่า เรื่องที่รัฐบาลนี้ต้องการเร่งรัดให้มีความคืบหน้าก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่คือ การก่อสร้างโครงการของหน่วยงาน เพื่อให้เกิดการลงทุนในส่วนของภาครัฐ เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกภาวะเศรษฐกิจมหภาคยังไม่เข้มแข็ง เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกค่อนข้างมาก เช่น เงินบาทแข็งค่า ปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับและสหรัฐอเมริกา ดังนั้นการลงทุนภาครัฐจะต้องมีความต่อเนื่องเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย กทพ.มีแผนงานที่จะดำเนินโครงการทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก ระยะทาง 18.7 กม. ใช้เงินลงทุน 30,437 ล้านบาท และโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ และ E-W Corridor ระยะทางประมาณ 17.2 กม. วงเงินลงทุน 23,266 ล้านบาท
ส่วนปัญหาการคัดค้านการเจรจาขยายสัมปทานทางด่วนนั้น นายไพรินทร์ กล่าวว่า ได้ฝากให้ผู้บริหารไปพูดคุยทำความเข้าใจกับพนักงาน ต้องดำเนินไปตามกระบวนการให้ถูกต้องและเป็นผลประโยชน์ของ กทพ. ส่วนจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้ได้ทันหรือไม่ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากยังมีหลายขั้นตอนที่เป็นกระบวนการภายในของ กทพ.ก่อนเสนอเรื่องมาให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอ ครม.
ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้นำเงินรายได้จากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์:TFF) มาใช้นั้นไม่น่าจะดำเนินการได้เนื่องจากขัดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ โดยเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารและคณะกรรมการ กทพ.ที่จะต้องพิจารณา ฝ่ายการเมืองคงเข้าไปก้าวก่ายกิจการไม่ได้
นายไพรินทร์ กล่าวว่า กทพ.ถือเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีความมั่นคงในการประกอบกิจการ เป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำ มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มีตัวชี้วัด เช่น มีแนวโน้มของรายได้ การจัดส่งรายได้เข้ารัฐที่มีเป้าหมาย มิติของการจัดการ การบริหารจัดการภายใน
ด้านนายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า ขณะนี้ กทพ.อยู่ระหว่างเปิดขายซองประมูลงานโยธาโครงการทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก ระยะทาง 18.7 กม. ใช้เงินลงทุน 30,437 ล้านบาท จำนวน 4 สัญญา โดยเป็นการประมูลแบบ e-bidding ตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง ซึ่งขณะนี้มีผู้รับเหมาจำนวน 6 รายสนใจซื้อเอกสารประมูล ซึ่งจะเปิดขายซองไปจนถึงวันที่ 23 เม.ย.62 และคาดว่าจะเข้าสู่ขั้นตอน e-bidding ที่ได้ตัวผู้รับจ้างราวปลายเดือน พ.ค.62
สำหรับการลดค่าผ่านทางให้ผู้ใช้บัตร Easy Pass นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ทำโปรโมชั่นที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางอโศก 4 โดยลดราคาลง 10% จาก 50 บาทเหลือ 45 บาท (สำหรับรถ 4 ล้อ) ช่วยลดแถวคอยหน้าด่านได้ดี ขณะนี้ได้ดำเนินการโปรโมชั่นลดค่าผ่านทางสำหรับผู้ใช้บัตร Easy Pass และบัตร M - Pass ที่ด่านบางขุนเทียน ซึ่งพบว่า มียอดการใช้ช่องทางอัตโนมัติเพิ่มประมาณ 9% และยังช่วยลดค่าฝุ่น PM2.5 เนื่องจากช่วยลดปัญหาจราจรหน้าด่านลง