ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ มิ.ย.เพิ่มขึ้น จากความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก-บาทอ่อนค่า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 12, 2019 12:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือนมิถุนายน 2562 อยู่ที่ 52.60 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 1.77 จุด หรือคิดเป็น 3.49% จากระดับ 50.83 จุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมานั้น นักลงทุนคาดว่ามาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย การอ่อนค่าของเงินบาท และแรงซื้อเก็งกำไร ตามลำดับ

โดยกลุ่มตัวอย่างจำนวน 310 ตัวอย่าง พบว่า 37.10% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ ขณะที่ 36.77% คาดว่าจะซื้อทองคำ และ 26.13% จะไม่ซื้อทองคำในช่วงเดือนนี้

สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 10 ตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในเดือนมิถุนายน 2562 คาดว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้น จำนวน 7 ราย และคาดว่าราคาทองคำจะลดลงจำนวน 2 ราย ส่วนที่คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือนพฤษภาคม 2562 มีจำนวน 1 ราย

ทั้งนี้การคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนมิถุนายน 2562 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,283-1,346 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 19,200-19,900 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทไทยให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 31.16-31.91 บาทไทย ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับการลงทุนทองคำในเดือนมิถุนายน 2562 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ ให้ความเห็นว่าจากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดดอกเบี้ย จึงแนะนำนักลงทุนทำกำไรในระยะสั้น โดยหากราคาทองคำมีการย่อตัวให้เข้าซื้อเพื่อเก็บสะสม และขายทำกำไรเมื่อราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้น

ปัจจัยราคาทองคำที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1.การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลาสหรัฐ (FOMC) กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่า ในระหว่างวันที่ 18-19 มิ.ย. กำลังถูกจับตามองว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นไปในทิศทางใด โดยนักลงทุนมองว่า หลังจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด อาจเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และยังสอดคล้องกับที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเวนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อ และเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เศรษฐบกิจจะเผชิญภาวะขาลงอันเนื่องมาจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

2.ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่า สหรัฐฯและจีนกำลังเผชิญภาวะติดขัดในการเจรจาการค้า ทั้งนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าร่วมประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก G20 ระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย. ซึ่งจะมีการหารือกันในประเด็นการค้าที่ไม่สมดุลระหวางสหรัฐฯและจีน รวมถึงจับตาการพบกันของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ อาจมีการเจรจาทางการค้าเพิ่มเติมได้

3.สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ มีความตึงเครียดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาหลังจากครบรอบ 1 ปีที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำร่วมกับประเทศมหาอำนาจเพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตร แต่สหรัฐฯกลับมาประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว และยกระดับขึ้นอีกครั้งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยสั่งให้ทุกประเทศหยุดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน พร้อมตัดสินใจไม่ต่ออายุการผ่อนผันสำหรับประเทศต่างๆที่ยังคงนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน หลังการผ่อนผันดังกล่าวได้หมดอายุลงในช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ