นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.22/24 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.23/24 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เป็นเพราะไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินในระยะนี้ แต่ในระยะ สั้นเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยเหตุผลหลักเป็นเพราะตลาดเชื่อ ว่า มีความเป็นไปได้มากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศของไทยเอง โดยเฉพาะหน้าตาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15 - 31.35 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.44/45 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.30 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1286/1291 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1295 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,674.14 จุด เพิ่มขึ้น 3.03 จุด (+0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 55,325 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,890.79 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดกำไรของธุรกิจส่งออกหดหายถึง 6.6 หมื่นล้านบาท ผลจากทิศ
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.62 อยู่ที่ระดับ 95.9
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน พ.ค.62 ส่งออกได้
- ส.อ.ท.ระบุ ปีนี้โอกาสที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) จะเติบโตได้ 3-4% คงเป็นไปได้ยาก เห็นได้
- สื่อต่างประเทศ รายงานโดยอ้างความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ว่า ทางการจีนอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือปรับลดสัด
- รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในวันนี้ว่า ผู้ควบคุมด้านกฎระเบียบของจีนควรจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และรักษาสภาพ
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ประกาศว่า จีนเตรียมเปิดตัวมาตรการใหม่ๆ
- อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น (IDC) เปิดเผยว่า การเติบโตด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของจีนจะเป็นไปอย่างรวด
เร็ว เนื่องจากการอนุญาตให้มีการใช้งานเทคโนโลยี 5G ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการยกระดับในภาคอุตสาหกรรมของประเทศ