ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.81 ตลาดจับตาสัญญาณดอกเบี้ยจากถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้ ยังให้กรอบ 30.75-30.90

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 10, 2019 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 30.81 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิด ตลาดที่ระดับ 30.82 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 30.80-30.88 บาท/ดอลลาร์

"ระหว่างวันถือว่าวิ่งกว้างปานกลาง ภาพรวมตลาดยังรอประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสคืนนี้ ถ้าส่ง สัญญาณว่าลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง เงินบาทบาทมีแนวโน้มแข็งค่า แต่ถ้าส่งสัญญาออกมาว่าจะใช้ความระมัดระวัง เงินบาทน่าจะอ่อนค่า" นัก บริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.75-30.90 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.89 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 108.91 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1219 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1205 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,739.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.95 จุด, +1.04% มูลค่าการซื้อขาย 73,610.25 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,318.75 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
(GDP) ของไทยในปี 2562 ลงเหลือ 2.9-3.3% จากเดิม 3.7-4.0% โดยมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังอยู่ท่าม
กลางความท้าทายและขาดปัจจัยหนุน

ขณะที่การส่งออกไทยในปี 2562 อาจมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ขยายตัว ดังนั้น กกร.จึงปรับลดประมาณการส่งออกลงเหลือ - 1.0 ถึง 1.0% จากเดิม 3.0-5.0% แม้รัฐบาลใหม่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง แต่อาจะไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลจาก การส่งออกที่ลดลงท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง และทิศทางเงินบาทที่แข็งค่า ส่วนอัตราเงินเฟ้อปี 2562 ยังคงไว้ที่กรอบเดิมคือ 0.8- 1.2%

  • กกร.เตรียมเข้าหารือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เร่งหามาตรการดูแลเงินบาทหลังแข็งค่าเร็ว โดย ส.อ.ท.อยาก
เห็นค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบที่ 32 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งหากเคลื่อนไหวในกรอบนี้ เชื่อว่า จะส่งผลให้การส่งออกติดลบน้อยลงได้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ
คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เห็นควรให้ติดตามพัฒนาการในประเด็นความเสี่ยงจากปัจจัยภายในประเทศใน 4
ประเด็น รวมถึงติดตามผลของมาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และศึกษามาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติมเพื่อดูแลความเสี่ยงเชิงระบบที่อาจ
เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจกระทบกับเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ปรับประมาณการเงินบาทสิ้นปี 2562 แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่
30-31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 31-32 บาท/ดอลลาร์ แรงกดดันของการแข็งค่าของเงินบาทมีอยู่ต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี
โดยประเมินว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากการหดตัวของภาคส่งออกและการชะลอตัวของการท่องเที่ยว แต่การเกินดุล
บัญชีเดินสะพัดของไทยยังคงอยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ซึ่งจะยังทำให้สถานการณ์เป็น regional safe
haven ของเงินบาทยังคงมีอยู่ต่อ กอปรกับสัญญาณการลดดอกเบี้ยนโยบายจาก Fed และธนาคารกลางอื่น ๆ ในภูมิภาค จะทำให้เงินบาท
ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านแข็งค่าอยู่ต่อไป
  • ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า การออกมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ช่วยให้
ตลาดมีความสมดุลมากขึ้น เป็นตลาดที่สะท้อนความต้องการที่แท้จริงมากขึ้น และช่วยคนที่อยากจะซื้อบ้านหลัแรกให้สามารถซื้อได้ในราคาที่
เหมาะสมขึ้น หากธปท.ไม่นำมาตรการดังกล่าวออกมาบังคับใช้ อาจจะเกิดปัญหาฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์ และจะส่งผลกระทบต่อ
ทุกคนตามมา
  • ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน กรกฎาคม 2562 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน
มิถุนายนจากระดับ 52.60 จุด มาอยู่ที่ระดับ 56.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.60 จุด หรือคิดเป็น 6.84% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมา
นั้น นักลงทุนคาดว่าน่าจะมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก การอ่อนค่าของเงินบาท สถานการณ์สงครามการค้า และ ความต้องการ
ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ตามลำดับ
  • อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ แนะเอกชนติดตามสถานการณ์ข้อพิพาททางการค้าเรื่องการอุดหนุนเครื่องบิน
ระหว่างสหรัฐกับสหภาพยุโรปอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงทางการค้าและเตรียมปรับตัวกรณีสองประเทศตอบโต้ทางการค้าระหว่างกัน
  • เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัว
ขึ้น 2.7% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • นักลงทุนต่างรอดูแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันนี้และวันพรุ่งนี้

ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ