ค่าเงินบาท ล่าสุดอ่อนค่ามาที่ 30.91 บาท/ดอลลาร์ โดยนักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า มาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาปรับปรุงหลักเกณฑ์มาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท และเพิ่มความเข้มงวดในการรายงานข้อมูลการลงทุนในตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อติดตามพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิดนั้น ถือเป็นยาแรงพอสมควร
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (BAY) ระบุว่า จากภาวะเงินบาทแข็งค่าลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มิ.ย.62 และเคยลงไปแข็งค่าสุดถึงระดับ 30.52 บาท/ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.62 ซึ่งเป็นการแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปี ล่าสุด ธปท.ได้ประกาศมาตรการป้องปรามเพื่อลดทอนช่องทางในการเก็งกำไรค่าเงินบาท และเพิ่มความเข้มงวดในการรายงานข้อมูลการลงทุนในตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ มองว่ามาตรการดังกล่าวของ ธปท.ถือว่าเป็นยาแรง และสร้างความตกใจให้แก่นักลงทุนพอสมควร โดยหลังจากที่ ธปท.ประกาศมาตรการเพียงไม่กี่นาที ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปแตะ 30.90 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.) เข้าใกล้ระดับ 31 บาท/ดอลลาร์แล้ว จากเมื่อเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 30.72 บาท/ดอลลาร์
"ถือเป็นมาตรการที่สร้างความตกใจพอสมควร เป็นยาแรงสำหรับนักลงทุนทีเดียว โดยเฉพาะการปรับลดยอดคงค้างบัญชีเงินฝากสกุลบาทของต่างชาติ จากเดิม 300 ล้านบาท เหลือ 200 ล้านบาทต่อราย ทำให้ล่าสุดตอนนี้บาทอ่อนค่าไปอยู่ที่ 30.90 แล้ว และถือว่าอ่อนค่าลงไป 1% เมื่อเทียบกับเย็นวานนี้" นักบริหารเงินระบุ
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นนี้เชื่อว่าคงยากที่จะเห็นเงินบาทกลับไปแข็งค่าใกล้กับระดับ 30.50 บาท/ดอลลาร์แล้ว ขณะเดียวกันก็มีโอกาสที่เงินบาทกลับเข้าไปสู่ระดับ 31 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามหลังจากนี้นอกจากยังเป็นเรื่องสงครามการค้า และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงปลายเดือนนี้แล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับตัวเลขเศรษฐกิจของไทยด้วย โดยเฉพาะภาวะการค้าระหว่างประเทศ (ส่งออก-นำเข้า) เดือนมิ.ย.62 ที่กระทรวงพาณิชย์จะประกาศในสัปดาห์หน้า