ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.91/92 อ่อนค่าจากช่วงเช้าตามภูมิภาค ตลาดจับตาว่าที่นายกฯอังกฤษคนใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 23, 2019 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.91/92 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าเปิดตลาดที่ระดับ 30.87/88 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเย็นนี้ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงเช้า ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับสกุลเงินหลักและสกุลเงินในภูมิภาคที่ต่างอ่อนค่า โดยมี ปัจจัยหลักจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าไปมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ มีนโยบายที่ จะมีความเสี่ยงให้อังกฤษต้องแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไม่มีเงื่อนไข

"ตอนนี้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินทุกสกุล เป็นผลจากที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงไปมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เพราะ ตลาดกังวลว่าอังกฤษอาจได้ผู้นำคนใหม่ที่มีนโยบายค่อนข้างดุดัน ซึ่งอาจทำให้อังกฤษต้องแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลง" นัก บริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า มองกรอบเคลื่อนไหวที่ 30.85 - 31.08 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.18 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.04/05 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1176 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.187/1211 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,724.87 จุด ลดลง 2.71 จุด (-0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 62,139 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,699.61 ลบ.(SET+MAI)
  • รมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารและกระทรวงการคลัง เรื่องนโยบายรัฐบาลที่
จะมีการแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 25 ก.ค.นี้ โดยเรื่องแผนปรับโครงสร้างภาษี ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ทำ
การพิจารณาแล้ว ด้านนโยบาย มีทั้งระยะสั้นที่ใช้งบประมาณในปี 62 และแผนระยะยาวที่ต้องใช้งบปี 63 เพื่อเป้าหมายของการลดความ
เหลื่อมล้ำทั้งระบบ
  • รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการยื่นจดทะเบียนธุรกิจในเดือนมิ.ย.62 และช่วงครึ่งปีแรก
ว่า ในส่วนของธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศในเดือนมิ.ย.62 จำนวน 5,586
ราย เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.62 จำนวน 5,942 ราย ลดลง 356 ราย คิดเป็น 6% และเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.61 จำนวน 6,514
ราย ลดลง 928 ราย คิดเป็น 14%
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าจากที่ประเทศไทยจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงราว 2 เดือน (มิ.ย.-ก.ค.) ซึ่งนับเป็นสถานการณ์ภัย
แล้งนอกฤดูกาลนั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท โดยเป็นความเสียหายของข้าวนาปี
เป็นหลัก คิดเป็น 0.1% ของจีดีพี
  • รมว.คลังสหรัฐ และผู้แทนการค้าสหรัฐ จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจากับรองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่ง
การเจรจาครั้งนี้จะเป็นการพบปะกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตกลงกันใน
ระหว่างการประชุมซัมมิต G20 ว่าทั้งสองฝ่ายจะสงบศึกการค้าชั่วคราว และจะจัดการเจรจาร่วมกันอีกครั้ง
  • ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ทวีตข้อความว่า รัฐบาลสหรัฐและสมาชิกระดับแกนนำในสภาคองเกรส ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับ
งบประมาณแล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมงบประมาณเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งจะทำให้มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐด้วย เพื่อให้สหรัฐ
ไม่เกิดการผิดนัดชำระหนี้
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่า BOJ จะพิจารณาการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม หากความไม่
แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจโลกนั้น ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของญี่ปุ่น พร้อมยืนยันว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะไม่เผชิญภาวะเงิน
ฝืดอีกต่อไป แม้อัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 0.5-1% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2%
  • รายงานสมุดปกขาวประจำปีของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นกำลังจับตาผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความ
ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่จะมีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่า ECB อาจจะเปิดเผย

มาตรการด้านนโยบายใหม่ๆ ในสัปดาห์นี้ หรือในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ