สรรพากรเร่งศึกษาเก็บภาษี e-Business ลดเหลื่อมล้ำการทำธุรกิจ ชี้เก็บภาษีกำไรจากหุ้นแค่ศึกษาไว้แต่ไม่ใช่โจทย์ด่วน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 25, 2019 17:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรอยู่ระหว่างเร่งศึกษาการจัดทำนโยบายภาษีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระบบ โดยได้ศึกษาการเก็บภาษีเพิ่มหลายชนิด เช่น การเร่งผลักดัน พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) จากผู้ให้บริการในต่างประเทศ เช่น Google และ Facebook ให้ได้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ ร่างกฎหมายอยู่ในการจัดทำรายละเอียดของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งจะมีการเสนอให้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พิจารณาผลักดันต่อไป

สำหรับการเก็บภาษี e-Business ส่วนแรกคือการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ศึกษาแนวทางการเก็บภาษีเพิ่มเติมในส่วนของภาษีการให้บริการด้านดิจิทัล (Digital Service Tax) ซึ่งขณะนี้มีหลายประเทศเริ่มเก็บแล้ว เช่น รัฐบาลฝรั่งเศสมีการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวอีก 3% จาก Google และ Facebook ที่มาให้บริการในฝรั่งเศส โดยจะมีการเรียกเก็บโดยหักที่จ่ายจากรายได้ทันที ส่วนข้อเสนอที่จะให้มีการลดการเก็บภาษีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ระยะเวลา 2 ปี ก็ต้องดูถึงความเป็นธรรมด้วย ในกรณีหากไม่เก็บภาษีกับคนขายออนไลน์ แต่ยังเก็บภาษีผู้คนที่ทำมาค้าขายปกติ

ส่วนกรณีที่จะมีแนวทางเก็บภาษีการลงทุนตราสารหนี้ในกองทุนรวม หากจะให้เป็นธรรมต้องเก็บภาษีส่วนต่างกำไรจากการซื้อขายหุ้นด้วยนั้น เรื่องนี้กรมสรรพากรก็มีการศึกษาอยู่เช่นกัน โดยต้องดูภาพรวม และเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะต้องมีการศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบทั้งข้อดีข้อเสีย แม้จะทำให้กรมฯ มีรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่ม แต่ก็ต้องดูผลกระทบจากตลาดหลักทรัพย์ควบคู่กันไปด้วย ที่สำคัญต้องรอการตัดสินใจระดับนโยบาย เพราะเรื่องนี้มีความอ่อนไหวมาก

"คิดว่าการเก็บภาษีกำไรซื้อขายหุ้น ยังไม่ใช่โจทย์เร่งด่วนที่ต้องทำในขณะนี้ เพียงแต่ก็อาจจะต้องศึกษาไว้ก่อน ขณะที่กรณีการลดหย่อนภาษีซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ผลศึกษาก็ชัดเจนว่าคนที่ได้ประโยชน์เป็นกลุ่มคนระดับบน แต่จะทำอย่างไรต่อไป ก็ต้องขึ้นกับนโยบาย โดยในวันนี้เรายังยืนยันตามแผนพัฒนาตลาดทุน ก็คือให้จบสิทธิประโยชน์ภาษีในปีนี้" นายเอกนิติกล่าว

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงนโยบายรัฐบาลที่จะให้มีการปรับลดภาษีเงินได้ 10% ว่า รมว.คลัง ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปพิจารณา แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ว่าจะลดภาษีรูปแบบใด รายได้ของประเทศย่อมได้รับผลกระทบ ดังนั้นจะต้องดูว่ารายได้หายไปเท่าไร จากนั้นต้องหาวิธีหารายได้กลับเข้ามาทดแทน เพราะปกติแล้วกรมสรรพากรเป็นหน่วยงานที่เก็บรายได้ 70-80% ของรายได้รวมประเทศ ดังนั้นรายได้ที่หายไปอาจกระทบต่อเสถียรภาพการคลังด้วย ดังนั้นจึงต้องพิจารณานโยบายในภาพรวมและรอความชัดเจนจาก สศค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ