ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐได้ลงนามรับรองแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.70 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นสถานการณ์ความคืบหน้าที่จะทำให้ชาวอเมริกานับล้านคนจะได้รับเงินคืนภาษีได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ โดยบุชกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นฉบับนี้มีขึ้นเพื่อช่วยโอบอุ้มภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยสภาคองเกรสได้มีมติเห็นชอบให้มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับทางกฎหมายโดยเร็ว" บุชกล่าว "แผนการที่ผมได้ลงนามในวันนี้มีอิทธิพลมากเพียงพอที่จะก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งจะมีผลประมาณ 1% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐ" ทั้งนี้ ทางการสหรัฐจะคืนเงินภาษีให้กับผู้ที่ได้รับเช็คสั่งจ่ายหรือได้รับสวัสดิการและประกันสังคมอย่างน้อยคนละ 300 ดอลลาร์สหรัฐ และคืนภาษีให้กับผู้จ่ายภาษีเงินได้คนละ 600 ดอลลาร์สหรัฐ และให้ครอบครัวละ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงให้เด็กๆ อีกหัวละ 300 ดอลลาร์สหรัฐ สำนักงานสรรพากรได้เปิดเผยรายละเอียดของการคืนเช็ค โดยบอกกับผู้ชำระภาษีว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้รับประโยชน์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนพ.ค.นี้ "สิ่งที่คุณต้องทำคือกรอกข้อมูลการคืนเงินภาษีประจำปี 2550 และทางสำนักงานสรรพากรจะดำเนินการในส่วนที่เหลือเอง และสำหรับบางคนที่ได้รับการสิทธิประโยชน์และประกันสังคมอาจไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลการคืนเงินภาษี" ลินดา สตีฟฟ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพากรกล่าวในแถลงการณ์ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า สำนักงานสรรพากรจะร่วมงานกับสำนักงานประกันสังคมและสำนักงานทหารผ่านศึกเพื่อแจ้งรายละเอียดแก่ผู้เสียภาษี นอกจากนี้ ทางสำนักงานสรรพากรยังได้แนะนำให้ประชาชนเตรียมพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับทางหน่วยงานที่อาจโทรศัพท์เข้ามาสอบถามข้อมูลด้านการเงิน