นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.85 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 30.91/92 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันพุธนี้ว่าจะมีมติ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% นอกจากนี้ยังมีการเจรจาคลี่คลายความขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐกับจีนแต่ตลาดไม่ได้คาดหวัง อะไรมากนัก
"บาทแข็งค่าจากเมื่อเย็นวันศุกร์ โดยตลาดรอดูผลประชุมเฟดว่าจะลดดอกเบี้ยเท่าไหร่" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.80 - 30.90 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (26 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.38217% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.37593%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 108.79 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 108.60/64 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1137 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1140/1143 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.9800 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย มองว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 30.70-31.10 ในช่วงต้นสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงหาก เฟดส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี นอก จากนี้ นักลงทุนยังรอติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางญี่ปุ่นที่คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง นโยบาย ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ตลาดรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ และดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย
- ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้จ่ายเงินสดหรือการทำธุรกรรมด้วยเงินสดของประชาชนในประเทศมีแนว
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สนค.อยู่ระหว่างจัดทำยุทธศาสตร์
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมหารือและเสนอแผนกระตุ้นภาคท่องเที่ยวไทยต่อนาย
- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ จะยังคง
- เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนเตรียมเปิดฉากการเจรจาการค้าที่นครเซี่ยงไฮ้ในวันนี้ โดยการเจรจาครั้งนี้จะเป็นการพบกันแบบตัว
- นักลงทุนจับตาแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวล ซึ่งจะมีขึ้นภายหลังการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันพุธที่ 31
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสเกือบ 76% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล
(PCE) เดือนมิ.ย., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมิ.ย., ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่
รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, ตัวเลขจ้างงานภาค
เอกชนเดือนก.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้
จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ
(ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนมิ.ย., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อภาคโรง
งานมิ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน