นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในปี 2550 นับตั้งแต่ที่ประเทศประสบวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชียเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอัตราการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น
เดสทรีย์ ดามายันติ นักเศรษฐศาสตร์จากมันดิรี ซิเคียวริตี้ส์คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ตลาดการเงินที่แข็งแกร่ง และรายได้ข้าราชการที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นปัจจัยที่หนุนให้อำนาจจับจ่ายซื้อสินค้าในประเทศฟื้นตัวขึ้น
นักเศรษฐศาสตร์ 10 คนที่ธอมสัน ไฟแนนเชียลสำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะขยายตัว 6.2-6.4% ในปี 2550 สอดคล้องกับที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้ที่ 6.3% แต่ยังคงต่ำกว่าระดับในปี 2539 ที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.8%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ในช่วงไตรมาสที่ 4 จะเพิ่มขึ้น 6.1-6.6% จากระดับในปีก่อนหน้านี้ แต่ลดลงจากในช่วงไตรมาสที่ 3 เนื่องจากมีวันหยุดเนื่องในวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งทำให้มีวันทำงานน้อยลง
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียมีกำหนดการเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำปี 2550 ในวันศุกร์นี้
"คาดว่า GDP จะขยายตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ผมคิดว่าสภาพเศรษฐกิจในปีที่แล้วมีความชี้นำ เห็นได้จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นหลายครั้ง" ดัมฮูริ นาซูชั่น นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยดานาเร็คซ่ากล่าว
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ค่อยๆเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนพ.ค.2549 หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 12.75% โดย BI ได้ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วทั้งสิ้น 4.75% มาอยู่ที่ 8%
ด้านอันตัน กุนาวัน นักเศรษฐศาสตร์จากซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัว 6.3% ในช่วงไตรมาส 4 ลดลงจากระดับ 6.5% ในช่วงไตรมาส 3 เนื่องจากความต้องการภายในประเทศที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วได้ชดเชยยอดส่งออกที่ลดลงในช่วงเวลาดังกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์:
[email protected]