(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.81 ตลาดเกาะติดประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน-จับตาผลประชุมกนง. มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 30.75-30.90

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 6, 2019 11:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.81 บาท/ดอลลาร์ จากวานนี้ที่ปิด ตลาดที่ระดับ 30.79 บาท/ดอลลาร์ แม้เมื่อคืนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหนัก

ทั้งนี้ ตลาดยังจับตาการประเด็นสงครามการค้าที่กลายเป็นสงครามค่าเงินแต็มรูปแบบ ทั้งนี้คาดว่าจะส่งผลต่อตลาดไปอีกระ ยะ รวมทั้งการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์นี้

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ไว้ 30.75-30.90 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (5 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.44409% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.33232%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.7775 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.22 เยน/ดอลลาร์ จากวานนี้อยู่ที่ 106.07 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1237 ดอลลาร์/ยูโร จากวานนี้อยู่ที่ 1.1111 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.8390 บาท/ดอลลาร์
  • สมาคมธนาคารไทยจะมีการลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับธนาคารพาณิชย์ เพื่อกำหนดใช้แนวปฏิบัติร่วมกันของภาค
ธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบซึ่งสนับสนุนแนวคิดธนาคารเพื่อความยั่งยืน โดยหนึ่งในแนวปฏิบัติ คือการกำหนด
แนวทางการให้สินเชื่อรายย่อยอย่างเหมาะสมเพื่อดูแลปัญหาหนี้เกินตัวของภาคครัวเรือนตามนโยบายของ ธปท.ได้อยู่ระหว่างเปิดรับความ
คิดเห็นตั้งแต่วันที่ 2-30 สิงหาคม 2562 โดยแนวนโยบายดังกล่าวจะใช้กับสถาบันการเงินทั้งหมด รวมถึงบริษัทแม่ บริษัทลูก และบริษัทร่วม
ทุกแห่งของสถาบันการเงินในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน คาดว่า จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 เพื่อช่วยกันดูแลแก้ไขปัญหาหนี้ครัว
เรือนไทย ซึ่งดำเนินการเห็นผลชัดเจนในปี 2563 รวมทั้งในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ธปท.จะต้องพัฒนาและพิจารณาแนวทางควบคู่เพิ่มเติม
  • บีโอไอเผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนครึ่งปีแรก 758 โครงการ มูลค่ากว่า 2.3 แสนล้านบาท ฟุ้งยอด FDI โต 4%
ญี่ปุ่นยังครองแชมป์อันดับ 1
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตั้งทีม
เฉพาะกิจซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเพื่อเป็นหัวหอกในการดึงนักลงทุนจากทั่วโลกให้มาลงทุนในไทย โดย
เฉพาะกลุ่มนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง ที่ต้องการย้ายฐานการผลิตเพื่อหนีภัยจากสงครามการค้า และใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ก่อน
กระจายไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ว่า การค้าโลกจะฟื้นตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ท่ามกลาง
ความเสี่ยงจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น
  • เว็บไซต์ของธนาคารกลางจีนระบุว่า จีนจะไม่ลดค่าเงินหยวนเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า โดยจีนจะดูแลอัตราแลก
เปลี่ยนให้มีเสถียรภาพ และดำเนินนโยบายปริวรรตเงินตราที่มีความต่อเนื่อง
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ยืนยันว่า จีนจะไม่ใช้หยวนเป็นเครื่องมือในการทำสงครามการค้า หลังจากที่หยวนทรุดตัวลงต่ำ
กว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ในวันนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี โดยค่าเงินหยวนในตลาดการเงินของจีนดิ่งลงแตะระดับ 7.04 เทียบ
ดอลลาร์
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.)
เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ส่งผลให้นักลงทุนหันไปถือครองสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์
ปลอดภัย เช่นเงินเยนและฟรังก์สวิส
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลัง
จากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 700 จุด ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้
การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ
  • กระทรวงการคลังสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดระบุว่า จีนได้กระทำการปั่นค่าเงิน ด้วยการปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงต่ำ
กว่าระดับ 7 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และสหรัฐจะร่วมมือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อขจัด
การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากจีน
  • ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้น
สุดท้ายของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 53.0 ในเดือนก.ค. จากระดับ 51.5 ในเดือนมิ.ย.
  • ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 53.7 ใน
เดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี จากระดับ 55.1 ในเดือนมิ.ย.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียน
ของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และดัชนีราคา
ผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ